บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI)เดินหน้าโครงการปลูกไม้ให้ป่าคืนคุณค่าสู่แผ่นดินร่วมกับ ศูนย์การฝึกกองทัพอากาศน้ำพอง และบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL)โดยนำร่องการฟื้นฟูผืนป่าและมีการปลูกต้นไม้จำนวน 5,000 ต้นครอบคลุมพื้นที่ 50 ไร่ ประกอบด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด ได้แก่ ยางนา พะยูงไทย มะค่าแดง และประดู่โดยมีเป้าหมายปลูกป่ารวมทั้งสิ้น 1,030 ไร่ ภายในระยะเวลา 10 ปี (ปี 2568 – 2577)
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำโสกหัน ศูนย์การฝึกกองทัพอากาศน้ำพอง ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ปลูกไม้ให้ป่าคืนคุณค่าสู่แผ่นดิน” พร้อมด้วย นาวาอากาศเอกสมภูมิ มูลทองจาด ผู้บังคับการศูนย์การฝึกกองทัพอากาศน้ำพอง นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) และนายพิริย์พล ชินธรรมมิตร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุน บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)
ในโครงการปลูกไม้ให้ป่าคืนคุณค่าสู่แผ่นดินยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐทั้งในระดับจังหวัด และอำเภอ ได้แก่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 และสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและกำกับดูแลด้านอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ รวมถึงการสนับสนุนทางวิชาการและทรัพยากรที่จำเป็น ขณะเดียวกันยังได้รับความร่วมมือจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาการอนุรักษ์ต้นน้ำลุ่มน้ำชี และศูนย์เพาะชำกล้าไม้ขอนแก่น ซึ่งมีบทบาทในการให้ความรู้ และสนับสนุนพันธุ์ไม้สำหรับการปลูกป่า อีกทั้งยังมีหน่วยงานในระดับอำเภอ อาทิ สำนักงานเกษตรอำเภอน้ำพอง สถานีตำรวจภูธรน้ำพอง และเทศบาลตำบลพังทุย ที่ร่วมบูรณาการและอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจกรรมของโครงการให้เป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ
โครงการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนตลอดจนชุมชนในพื้นที่รอบศูนย์การฝึกกองทัพอากาศน้ำพองและบริเวณโดยรอบโรงงานในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเป็นรูปธรรม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสม เป็นประโยชน์กับสังคม และชุมชนทั้งทางตรงและทางอ้อม สอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG ของบริษัท บีบีจีไอจำกัด (มหาชน) ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลและนโยบายด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพที่ต้องการส่งเสริมให้มีการตระหนักถึงความเสี่ยง และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน มุ่งพัฒนาสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศได้อย่างยุติธรรมและเท่าเทียม
