ข่าวด่วน

กาฬสินธุ์ พบผู้ติดเชื้อโควิท 19 เพิ่มอีก 1 ราย หลังกลับจากสนามมวยชื่อดัง พบแต่อาการไม่รุนแรง

จังหวัดกาฬสินธุ์แถลงสถานการณ์โรคติดต่อไวรัสโควิด-19 ยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 1 ราย กลับจากสนามมวยกรุงเทพมหานคร แต่อาการไม่รุนแรง ยอดสะสม 2 ราย พร้อมกักตัวผู้เสี่ยงสัมผัสโรคอีก 8 ราย และเปิดไทม์ไลน์ก่อนเข้ารักษาตัว

เมื่อเวลา 16.15 น.วันที่ 24 มีนาคม 2563 ที่ศูนย์อำนวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผวจ.กาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์และการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ล่าสุดวันนี้ 24 มีนาคม 2563 มีผู้ป่วยที่ยืนยันการติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย รวมสะสมเป็น 2 ราย มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสอบสวนโรค 36 ราย เป็นรายเดิม 31 ราย รายใหม่ 5 ราย โดยทั้ง 35 ราย ตรวจพบเชื้อ 2 คน คือรายเดิมและรายใหม่ที่ผลการตรวจยืนยันวันนี้ ซึ่งทั้งสองคนได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐแล้ว ตรวจไม่พบเชื้อ 30 ราย ส่วนอีก 4 รายอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจ สำหรับกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศที่มีการเฝ้าระวังจากเขตติดต่อโรคอันตราย 4 ประเทศ ติดตามได้และเฝ้าระวังในพื้นที่ 38 ราย อยู่ในระหว่างเฝ้าระวัง 14 วัน  22 ราย พ้นระยะเวลา 16 ราย ต่างพื้นที่ 1 ราย ส่วนกลุ่มที่เดินทางจากประเทศที่ระบาดต่อเนื่อง 29 ประเทศ อยู่ในพื้นที่ติดตามได้ 59 ราย อยู่ในการเฝ้าระวัง14 วัน 49 ราย สิ้นสุดการเฝ้าระวังไปแล้ว 10 ราย

ส่วนประชาชนที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯและจังหวัดปริมณฑลล่าสุดพบว่ามีจำนวน 258 ราย ในจำนวนนี้มีกลับจากต่างประเทศ 8 ราย ซึ่งขณะนี้ได้รับทั้งชื่อ นามสกุล และที่อยู่อย่างชัดเจน ซึ่งกลุ่มคนทั้งหมดนี้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าดู ให้คำแนะนำไปปฏิบัติตัว 14 วัน ซึ่งประชาชนอย่าได้วิตกกังวล เนื่องจากทุกคนเป็นญาติพี่น้อง ลูกหลานของเราเอง ซึ่งกลับมาบ้านด้วยความจำเป็น เพราะฉะนั้นอย่าที่จะไปแสดงความรังเกียจ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ว่าติดเชื้อ รอให้ผ่านพ้นไปก่อน

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า จ.กาฬสินธุ์ โดยคณะกรรมการฯได้ออกประกาศฉบับที่ 5 ไปแล้วข้อห้าม 30 ข้อ ซึ่งปรากฏว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า แม่ค้าร้านต่างๆให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งทางจังหวัดขอย้ำว่าการที่จะชนะและผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้จะต้องร่วมแรงร่วมใจกันทุกคน

นายชัยธวัช กล่าวว่า จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ปรากฏชัดเจนว่าวันที่ 6 มีนาคม 2563 ผู้ป่วยคนดังกล่าวไปดูมวยที่สนามมวยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครด้วยกัน ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับผู้ป่วยรายแรก จากนั้นระหว่างวันที่ 6-13 มีนาคม 2563 ผู้ป่วยรายที่สอง ไปดูมวยต่อที่ในพื้นที่ จ.นครปฐม ซึ่งในขณะนั้นอาจจะติดเชื้อหรือยังไม่ติดเชื้อยังไม่ใครรู้ และระหว่างวันที่ 13-19 มีนาคม 2563 ก็กลับมาที่กรุงเทพฯอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นได้เดินทางมาที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 ซึ่งพอมาถึงพื้นที่ก็ทราบข่าวว่า มีการติดเชื้อในส่วนใหญ่จากเวทีมวย ประกอบกับตนเอง มีอาการไอและมีน้ำมูก จึงเดินทางเข้ามาตรวจในสถานพยาบาล โดยมีญาติพามา ซึ่งแพทย์ได้ส่งผลเลือดไปตรวจ กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผลออกตรวจออกมาว่าพบเชื้อไวรัสโควิด-19

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า  นอกจากนี้จากการสอบสวนโรค ยังพบอีกว่ามีบุคคลที่เสี่ยงเนื่องจากสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรงจำนวน 8 ราย โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ โดยนายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ ทราบตัวบุคคล และทำการกักตัว และดำเนินการตามขบวนทั้งหมดทุกคนแล้ว อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบมีอยู่วันเดียวคือวันที่ 22 มีนาคม 2563 ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทางไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง และร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในตัว อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงเวลา 12.00 น.-13.00 น.ดังนั้นหากใครอยู่ในสถานที่และช่วงเวลาดังกล่าว ให้เฝ้าระวังและสังเกตอาการตนเอง 14 วัน เพื่อความปลอดภัย แต่อย่างเพิ่งตื่นตระหนกโดยเด็ดขาด และยังไม่ต้องเดินทางมาตรวจ ควรที่จะต้องเฝ้าระวังตนเอง 14 วัน เพราะการติดเชื้อระยะเวลา 14 วัน และไม่ได้ติดเชื้อกันเสมอไป ซึ่งหากเฝ้าดูอาการตนเอง 14 วันแล้วไม่มีอะไรผิดปกติก็ใช้ชีวิตตามเดิม แต่หากในช่วงเวลาดังกล่าว มีไข้สูง 37.5 องศาขึ้นไป มีอาการไอ มีเสมหะ น้ำมูก และเจ็บคอ ให้รีบมาพบแพทย์ทันที

ด้าน นพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยทั้งสองราย โดยรายแรกเข้าสู่รักษาเป็นวันที่ 7 ซึ่งอาการทีแรกไม่ได้หนัก ไอเล็กน้อย ตรวจพบปอดอักเสบเล็กน้อยด้านขวา และขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนรายที่ 2 ได้เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ไปสัมผัสโรคมาจากสถานที่เดียวกันกับรายแรก มาขอรับการตรวจ ผู้ป่วยมีไข้ไม่มาก และอาการดีเริ่มดีขึ้นแล้ว ซึ่งยืนยันว่าทางโรงพยาบาลได้รักษาอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบรรยากาศร้านจำหน่ายอาหารในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบว่า บรรดาพ่อค้า แม่ค้าที่จำหน่ายอาหารส่วนใหญ่ต่างให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการแยกคนเป็นอย่างดี โดยนำป้ายมาติดไว้หน้าร้านงดการนั่งดื่มและนั่งประทาน เปิดร้านขายอาหาร แต่ให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน นอกจากนี้หลายหน่วยงานยังคงร่วมกันรณรงค์สร้างการรับรู้แก่ประชาชน รณรงค์สวมหน้ากากอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ใช้แอลกอฮอล์ล้างมือบ่อยๆ และทำความสะอาดพื้นที่ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆในพื้นที่ตลาด ห้างสรรพสินค้า และจุดเสี่ยงต่าง เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด -19