ข่าวด่วน

พ่อเมืองย้ำกับต้องดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ขณะที่สาธารณสุขปรบมือให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กำชับนายอำเภอดูแลใกล้ชิด และเฝ้าระวัง หลังยอดผู้เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นทุกวันล่าสุด 11,021 คน ย้ำต้องกักตัว 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่นายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่ ร่วมปรบมือส่งกำลังให้แพทย์ พยาบาล บุคคลากรสาธารณสุข อสม.และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ด่านหน้า

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 30 มีนาคม 2563 นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 จังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำวันที่ 30 มีนาคม 2563  โดยจังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้ป่วยติดเชื้อ 2 คน ผู้ป่วยเข้าข่ายสอบสวนโรค สะสม 58 คนผลการตรวจหาเชื้อไม่พบเชื้อ 54 คนรอผล 2 คน ส่วนกลุ่มผู้ที่เดินทาง กลับมาจากกรุงเทพฯและปริมณฑล ยอดสะสม 11,021 คน ขณะที่การตั้งจุดคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่บริเวณเขตรอยต่อกับพื้นที่จังหวัดข้างเคียง จำนวน 6 จุด ผลการตรวจ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จำนวนของผู้ที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯและปริมณฑล มียอดสะสมเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้น นายอำเภอ พร้อมด้วยทีมสี่ทหารเสือ จึงต้องเข้าไปกำกับดูแลใกล้ชิด เฝ้าระวัง ต้องให้ผู้ที่เดินทางมาถึง กักตัวเอง 14 วัน ย้ำการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ที่กักตัวเอง ต้องมีความรับผิดชอบทั้งต่อตนเอง ต่อผู้อื่นครอบครัวและสังคม

ทั้งนี้ ในส่วนของศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังได้ใช้มาตรการเข้มในการเข้า-ออก เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19  โดยได้ให้เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนประจำศาลากลางจังหวัด (อส.) ที่ปฏิบัติหน้าที่เวรยามประจำศาลากลางจังหวัด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน และประชาชนที่เดินทางมายังศาลากลางฯ ได้ผ่านการตรวจวัดไข้ พร้อมทั้งมีแอลกอฮอล์เจลล้างมือก่อนเข้าในพื้นที่ และหากตรวจวัดไข้พบอุณหภูมิกิน 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะให้นั่งพักรอด้านนอก แล้วตรวจวัดซ้ำอีกครั้ง หากอุณหภูมิยังไม่ลดก็จะแนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวัดโดยละเอียดต่อไป โดยทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนภายในศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ลดความเสี่ยงในการรับเชื้อของผู้ที่จะมาติดต่อราชการ และผู้ที่ทำงานในศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์

ขณะที่นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และบุคลากรสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกันปรบมือส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรสาธารณสุข  อสม.และเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งการรักษา การตั้งด่านที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ซึ่งถือเป็นด่านหน้า