เกิดเหตุไฟไหม้ศาลาไม้เอนกประสงค์อายุกว่า 60 ปี ในวัดชัยสุนทร วัดเก่าแก่ประจำตัวอดีตเจ้าเมืองกาฬสินธุ์ โดยก่อนเกิดเหตุไม่มีพระภิกษุ สามเณรพักอยู่ เบื้องต้นสันนิษฐานคาดจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 24 มิถุนายน 2563 พ.ต.ท.นพรัตน์ หลวงสนาน ร้อยเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดชัยสุนทร ว่าเกิดเพลิงไหม้ศาลาไม้ภายในวัด จึงได้รายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และประสานหน่วยดับเพลิงประจำเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยกู้ภัยจากสมาคมกู้ภัยสามัคคีกาฬสินธุ์ จุดเมืองกาฬสินธุ์ ให้เร่งนำรถดับเพลิงมายังสถานที่เกิดเหตุ โดยที่เกิดเหตุเป็นศาลาเอนกประสงค์ 2 ชั้น ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน ชั้นสองเป็นอาคารไม้เก่าทั้งหมดเป็นอาคารไม้เก่าแก่อายุกว่า 60 ปี ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้จากชั้นบนล่ามลงมาด้านล่าง โดยศาลาหลังนี้ด้านบนเป็นพักที่ของพระภิกษุสงฆ์ ด้านล่างเป็นที่เก็บเครื่องนุ่งห่ม จำพวก หมอน เสื้อ และของใช้ต่างที่เป็นเชื้อไฟอย่างดีทำให้เพลิงได้โหมไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกไหม้ไปยังศาลาข้างเคียงประมาณ 2 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบลง สันนิฐานเบื้องคาดว่า เพลิงไหม้ในครั้งนี้สาเหตุเกิดมาจากไฟฟ้าลัดวงจร
พระอธิการปริญญา ปริญญาโณ เจ้าอาวาสวัดชัยสุนทร กล่าวว่า เมื่อคืนนี้เวลา 02.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาเอนกประสงค์ซึ่งเป็นอาคารสองชั้นอันเก่าแก่ที่เหลือเพียงหลังเดียวของวัดมีอายุการสร้างกว่า 60 ปี จากนั้นได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประสานไปยังหน่วยดับเพลิงของทางเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งฉีดน้ำเพื่อให้ไฟไปลุกล่ามในอาคารข้างเคียงโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบลง หลังจากตรวจสอบแล้วคาดว่าเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดมาจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งชั้นสองมีสภาพเป็นไม้เก่าทั้งหมด บางห้องเป็นที่เก็บหมอน เสื้อ ที่มีนุ่นเป็นวัสดุหนักทำให้เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ศาลานี้ใช้เป็นที่พักของพระภิกษุ แต่ก็เคราะห์ดีก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ 4 วัน ได้แจ้งให้ทางพระภิกษุให้ออกจากอาคารหลังนี้ไปพักยังกุฎิหลังอื่น เนื่องจากจะมีการบูรณะใหม่อีกครั้ง หลังจากเพลิงสงบลงได้เข้าไปสำรวจตรวจพบว่า สิ่งที่เสียหายหลักจะเป็นพระพุทธรูปทองเหลือง พระเครื่อง หนังสือเก่า หมอน เสื้อ อุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็น ไม่สามารถตีมูลค่าความเสียในครั้งนี้ได้ ในส่วนของการเก็บกู้อาคารนั้น ได้รอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจหาสาเหตุของเพลิงไหม้อีกครั้ง จากนั้นจะได้ขอแรงศรัทธาญาติโยมในชุมชนหรือผู้มีจิตศรัทธาได้ช่วยกันขนย้ายสิ่งของที่ยังมีสภาพใช้ได้ออกมาและจะได้รื้อศาลาเอนกประสงค์หลังนี้ เพื่อก่อสร้างทนแทนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
นางวิกุล สุวรรณลักษณ์ อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 131 ชุมชนสงเปลือย เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ศาลาหลังนี้คุณตาทวด เป็นผู้สร้างถวาย มีอายุกว่า 60 ปี หลังจากไฟไหม้ตนรู้สึกตกใจและเสียใจ เพราะมีความผูกพันกับวัดนี้และศาลาหลังนี้เป็นอย่างมาก แต่เดิมเป็นศาลาไม้ทั้งหมดมีใต้ถุนเปิดโล่งสมัยก่อนในช่วงเทศกาลต่างๆ ประชาชนในชุมชนจะมาใช้ใต้ถุนศาลานี้เป็นที่รวมตัวกันทำกิจกรรมต่างๆทั้งของวัดและของชุมชน ส่วนสาเหตุจากไฟไหม้ตนก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่วันนี้ที่ได้ยินข่าวจึงรีบเดินทางมาดูด้วยตาของตนเองเห็นแล้วเศร้าใจเสียใจสิ่งที่ผูกพันต้องถูกไฟไหม้พังลงกับตา
สำหรับวัดชัยสุนทร เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองกาฬสินธุ์ โดยได้ตั้งชื่อวัดตามชื่อของเจ้าเมืองกาฬสินธุ์ พระยาชัยสุนทร โดยพระยาชัยสุนทรบวรภักดี (ตุ่ย อินทรกุล) เป็นเจ้าเมืองคนสุดท้าย ซึ่งได้อุปถัมภ์ก่อสร้างวัดแห่งนี้เพื่อให้เป็นแหล่งรวมจิตศรัทธาชาวกาฬสินธุ์และเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจสำคัญ ๆ ของชาวบ้านมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี
