เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านประชาชน ที่อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เสียหายทั้งหลัง 1 หลังคาเรือน อนาถสุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้วัย 3 ปี คิดว่าเจ้าของบ้านติดอยู่ในกองเพลิง วิ่งเข้าไปในบ้าน ก่อนถูกเพลิงคลอกตายดับอนาถ
วันที่ 3 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00 น.ศูนย์วิทย์กู้ภัยสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านที่บ้านจะแกโกน ซ.ขนมนางเล็ด ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.อ.สุรเดช เพ็ชรใสดี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมกับรถน้ำบรรเทาสาธารณภัยของ อบต.ท่าสว่าง, รถน้ำดับเพลิงของเทศบาลเมืองสุรินทร์, และรถน้ำบรรเทาสาธารณภัยของ อบต.แกใหญ่ รีบรุดเข้าตรวจสอบพร้อมกับเข้าสกัดเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 222 หมู่ 5 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ทราบว่าเป็นบ้านของนายชัน บุญงาม(สามี), นางสุภัค บุญงาม(ภรรยา)และสุนิภา บุญงาม(ลูกสาว) พบเจ้าหน้าที่กำลังเข้าดับไฟที่กำลังลุกไหม้ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าสกัดเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้บ้านชั้นบนจนหมดและเลี้ยงไว้ไม่ให้ลามไปยังหลังใกล้กันพร้อมประสานไปยังรถดับเพลิง อบต.ใกล้เคียงช่วยสกัดเพลิงด้วย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ซึ่งมีของมีค่าหลายรายการและเงินสดที่อยู่ในบ้านอีกจำนวน 50,000 บาท ซึ่งค่าเสียหายเบื้องต้นยังประมาณค่าไม่ได้ พร้อมกันนี้ยังพบสุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้สีขาวที่หนีออกมาไม่ทัน นอนตายอยู่ในกองเพลิง 1 ตัว
จากการสอบถามนายชัน บุญงาม(สามี)เจ้าของบ้าน ทราบว่า ตนไม่ได้อยู่บ้านมาทำงานรับเหมาก่อสร้างภายในหมู่บ้าน จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านมาตามตนบอกว่าไฟไหม้บ้านตน ตนจึงรีบมาที่บ้านได้เห็นไฟกำลังลุกไหม้อย่างแรงที่ชั้นบน ซึ่งตนก็ถึงกับเข่าอ่อนพร้อมกับร้องไห้ออกมาว่าหมดตัวแล้ว พร้อมกันนี้สุนัขพันธุ์ไทยชื่อเจ้าโอเลี้ยงที่ตนเลี้ยงวิ่งเข้าไปหาลูกสาวตนหนีออกมาไม่ทัน สุนัขได้วิ่งเข้าไปตามหาลูกสาวตนที่นอนหลับที่ทีวีอยู่ข้างล่าง โดยอาจจะเข้าวิ่งไปตามลูกสาวตนอาจจะวิ่งออกมาไม่ทันจึงถูกไฟคลอกตาย ตนเป็นคนอุ้มร่างเจ้าโอเลี้ยงออกมาจากบ้านด้วยตนเอง
สุนิภา บุญงาม(ลูกสาว) เจ้าของบ้านต้นเพลิง เปิดเผยว่า ช่วงนั้นตนได้นอนดูทีวี เหมือนจะเผลองีบหลับไปอยู่ชั้นล่างหน้าทีวี และเจ้าโอเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้ของตนได้นอนอยู่ด้านหน้าประตูใต้แค่ร ขณะที่นอน ตนได้ยินเสียงเปาะแป๊ะอยู่ข้างบนบ้านพร้อมกับได้กลิ่นคล้ายกับกลิ่นไหม้ ตนยังนึกว่าข้างบ้านเผาขยะ แต่ตนก็ลุกขึ้นไปดูชั้นบนเพราะสงสัยว่าเสียงเปาะแป๊ะนั้นมันดัง พอขึ้นไปเห็นไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบวิ่งออกมาพร้อมกับตระโกนเรียกชาวบ้านให้เข้ามาช่วยดับไฟพร้อมกับโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วย แต่ก็สายไปไฟได้ลุกไหม้บ้านตนจนหมดทั้งหลัง
สุนิภา บุญงาม(ลูกสาว) เจ้าของบ้านต้นเพลิง กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนเจ้าสุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้สีขาวของตนชื่อเจ้าโอเลี้ยง เป็นสุนัขที่ตนเลี้ยงกันมา 3 ปี ตนและเจ้าโอเลี้ยงเล่นกันมาตั้งแต่เล็ก สุนัขของตนจะห่วงตนและรักบ้าน และคาดว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้คิดว่าตนอยู่ในบ้าน เลยวิ่งเข้าไปในกองเพลิง เพื่อเข้ามาตามหรือมาช่วยตน แต่พอเข้ามาไม่เห็นตนก็อาจจะวิ่งออกมาแต่ออกมาไม่ทันจึงทำให้ถูกไฟคลอกตามดังกล่าว
ทางด้าน ร.ต.อ.สุรเดช เพ็ชรใสดี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้ทำการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับสันนิฐานเบื้องต้นอาจจะไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างก็ตามต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักเข้าตรวจสอบอีกที