พลังความรักของแม่ยิ่งใหญ่ เจ้าของโพสต์ภาพยายกำเงินรับยาแทนลูกป่วยแก้ลมชัก

หนุ่มกาฬสินธุ์ เจ้าของโพสต์ภาพยายกำเงินมารับยาแทนลูกเผย อยากให้เห็นพลังความรักของแม่ ด้านรองผอ.รพ.กาฬสินธุ์ระบุ คุณยายมารับยาแก้ลมชักเอง เหตุเป็นห่วงลูก และโรงพยาบาลบริการเต็มที่

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพด้านหลังของหญิงสูงอายุคนหนึ่ง ซึ่งสวมเสื้อผ้าเก่าๆ เนื้อตัวมอมแมม ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์รับยาในสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยข้อความในโพสต์ ระบุว่า “ความรักที่ยิ่งใหญ่คือความรักของแม่ คุณยายถึงจะลำบากก็ยังดูแลลูก ชื่นชมคุณยายจริงๆ ยายกำเงินเหรียญมาประมาณ 40 บาทเพื่อมาจ่ายค่ายา ปั่นเลยถามยายว่ายายมาทำอะไร ยายบอกว่ามาเอายาให้ลูกยาลูกหมด แต่พนักงานบอกว่ามันไม่ได้เสีย ยายเลยตอบกับไปว่ามันค่ำแล้วนึกว่าจะเสียเงิน ยายพูดจาเพราะมากยกมือไหว้ตลอดทุกครั้งที่พูด เห็นแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้เลย ความรักของแม่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วบนโลกใบนี้ จ.กาฬสินธุ์” โดยหลังจากข้อความและภาพดังกล่าวได้โพสต์และได้มีการแชร์ในโลกออนไลน์กันจำนวนมาก ทำให้ชาวเน็ตและผู้อ่านหลายคนต่างรู้สึกสงสารคุณยาย และแสดงความคิดเห็นชื่นชมพลังแห่งความรักของผู้เป็นแม่ แม้อายุมากแล้ว และร่างกายอาจจะไม่แข็งแรงแต่ก็ยังทำหน้าที่แม่ดูแลลูกอย่างเต็มที่

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าสถานพยาบาลที่คุณยายไปรับยานั้นเป็นโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จึงได้เข้าสอบถามเรื่องราวดังกล่าว โดยนายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีคุณยายมารับยานั้น จากการตรวจสอบเป็นการมารับยาให้กับลูกชายที่ป่วยเป็นโรคลมชัก โดยจะมารับเดือนละครั้ง ซึ่งปกติทุกครั้งจะมีญาติของคุณยายมารับยา โดยผู้ป่วยมีสิทธิรักษาบัตรทองของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า แต่สำหรับครั้งนี้คุณยายมาเอง คาดว่าญาติที่เคยมารับอาจจะติดธุระ ประกอบกับยาหมดพอดี คุณยายจึงกลัวว่าลูกชายจะอาการกำเริบ จึงร้อนใจมารับเอง โดยมารับช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการรับยานอกเวลาปกติ  คุณยายอาจจะเข้าใจผิดว่าต้องจ่ายเงิน แต่ทางโรงยาบาลกาฬสินธุ์ก็ได้เปิดบริการจ่ายยาให้กับผู้ป่วยทั้งในเวลาและนอกเวลาตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว พร้อมกับดำเนินการจ่ายยาให้กับคุณยายนำกลับไปให้ลูกชายรับประทานตามสิทธิที่ได้รับ

ด้านนายเอ (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเจ้าของโพสต์ กล่าวว่า ขณะนั้นตนกำลังเข้าเวรอยู่ที่ห้องบัตร เห็นคุณยายเดินทาง พร้อมกับกำเงินเหรียญประมาณ 40 บาท จึงได้ถามคุณยาย มีอะไรให้ช่วยหรือไม่ ซึ่งคุณยายบอกว่า มารับยาให้ลูกชาย แต่มาค่ำ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเวลานอกราชการ ที่จะต้องจ่ายเงินค่ายา ตนจึงได้พาไปที่ห้องจ่ายยา พร้อมกับบอกคุณยายว่า แม้มารับยาค่ำนอกเวลาก็ไม่ได้เสียเงิน อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ตนถ่ายภาพด้านหลัง แล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊กนั้น ไม่ได้ต้องการอะไร เพียงแต่รู้สึกสงสารยายและอยากให้สังคมได้เห็นพลังแห่งความรักของผู้เป็นแม่ที่มีต่อลูกเท่านั้น และขณะนี้ตนก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บางคนก็แสดงความคิดเห็นเชิงบวก บางคนคิดในทางลบ  จึงเกรงว่าจะกระทบต่อจิตใจของคุณยาย และญาติ รวมทั้งองค์กรด้วย อีกทั้งยังจะมีคนอยากมาช่วยเหลือคุณยาย โดยจะบริจาคเงินด้วย ซึ่งไม่ใช่จุดประสงค์ที่ตนเองโพสต์ จึงได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกแล้ว

อย่างไรก็ตามจากการสอบถามทราบว่า คุณยายคนดังกล่าว มีมักจะขายผลไม้พื้นบ้าน และพืชผักสวนครัว มาขายตามตลาดสด สี่แยกไฟแดงก่อนถึงเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ และสถานที่ต่างๆ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบปรากฏว่าหลังจากไปรับยาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา กลับไม่เห็นยายมาขายของที่บริเวณดังกล่าว  ส่วนสาเหตุที่ยายต้องขายพืชผักนั้น ทราบจากคนขายพวงมาลัย ที่ไปขายแห่งเดียวกับคุณยายว่า เนื่องจากคุณยายเป็นคนขยัน ทำมาหากิน แม้ลูกหลานคอยห้าม แต่คุณยายก็ยังอยากทำมาหากิน เพื่อแบ่งเบาภาระลูกหลาน