ข่าวอัพเดทรายวัน

เจ้าของร้านทองมอบกระเช้าขอบคุณตำรวจสภ.นาคู หลังจับคนร้ายควงอีโต้จี้ชิงทอง

เจ้าของร้านทองพร้อมพนักงานมอบกระเช้าขอบคุณตำรวจสภ.นาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากสามารถจับกุมคนร้ายควงมีดอีโต้บุกจี้ร้านทองและร้านสะดวกซื้อได้อย่างรวดเร็วทันควัน

จากกรณีนายเดชณรงค์ วรรณสังข์ อายุ 27 ปี ชาว ต.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ใช้เสื้อปิดบังใบหน้าควงอาวุธมีดอีโต้บุกเดี่ยวเข้าไปจี้ชิงทองภายในร้านทองเยาวราช (ตรามังกร2) ตั้งอยู่ในตัวอำเภอนาคู จ.กาฬสินธุ์ ก่อนถูกตำรวจสภ.นาคูบุกเข้าชาร์จและจับตัวได้บริเวณหน้าร้านทองดังกล่าว พร้อมของกลางแหวนทองหลายรายการ และจากการสอบสวนพบว่าก่อนก่อเหตุชิงทอง นายเดชณรงค์ ยังก่อเหตุจี้ชิงเงินภายในร้ายสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาอำเภอนาคูอีกด้วย ก่อนจะย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมาโดยเหตุเกิด ก่อนจุคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งสอง 2 จุด

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564  นายชาญชิต ทรัพย์กุลมงคล อายุ 58 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราชสาขา 2 อำเภอนาคู  พร้อมด้วยนางนภาภรณ์ ทรัพย์กุลมงคล ภรรยา และพนักงานร้านทอง และตัวแทนร้านสะดวกซื้อได้นำกระเช้าไปมอบให้แก่ พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาคู และชุดจับกุม เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าในการปฏิบัติหน้าที่ และขอบคุณตำรวจที่ทำงานจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว 

นายชาญชิต  ทรัพย์กุลมงคล อายุ 58 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราชสาขา 2 อำเภอนาคู กล่าวว่า จากเหตุการณ์คนร้ายควงอี้โต้เข้าปล้นร้านทองของตน เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมานั้นต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นาคูที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ทันควัน โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและไม่มีทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งในวันนี้จึงกำลังใจให้กับเจ้าหน้าในการปฏิบัติหน้าที่

   ด้าน พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ  ผกก.สภ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะตัวแทนพี่น้องตำรวจสภ.นาคูทุกคนต้องขอขอบคุณทางผู้ประกอบการที่ได้มอบกระเช้าของขวัญ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาคู อย่างไรก็ตามทางสภ.นาคูได้เน้นย้ำเจเหน้าที่ตำรวจทุกนายเสมอในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ต้องเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนและตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มความสามารถ

สำหรับในเรื่องของคดีนั้นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังแล้วตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา โดยดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธหรือพรางตัวเพื่อไม่ให้เห็นใบหน้า โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม,พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย