ล้อมจับหนุ่ม มอมยาเด็ก 12 ปี คาดหลอกพาไปขโมยรถจยย.

เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ตำบลคลองขาม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ล้อมจับชายผู้ต้องสงสัยลักพาตัวเด็กชายวัย 12 ปี หายจากบ้าน 3 วัน   หลังผู้ปกครองเข้าแจ้งความและโพสต์หาเบาะแสทางเฟซบุ๊ก คาดอุ้มตัวไปมอมยาล่อลวงหลอกพาไปขโมยรถจักรยานยนต์ แต่คนร้ายถูกกดดันทางสื่อโซเชียลจึงพากลับบ้าน โชคดีที่กลับบ้านด้วยความปลอดภัย

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ได้โพสต์ภาพและข้อทางเฟซบุ๊ก เพื่อประกาศตามหา ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ชาวบ้านใน ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หลังหายตัวออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 14 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา โดยมีชาวบ้านเห็นอยู่กับชายแปลกหน้าอายุประมาณ 35-40 ปี ทำให้ผู้ปกครองเข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูง อ.ยางตลาด เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการล่อลวงลักพาตัวและได้รับอันตราย พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาเบาะแส และขอพลังสื่อโซเชียลช่วยกันติดตามหาตัว

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 มกราคม 2563  ที่ สภ.ยางตลาด  จ.กาฬสินธุ์ นายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ซึ่งเป็นเข้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว  พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านตำบลคลองขาม 10 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ยางตลาด ได้ควบคุมตัวนายสุชาติ ภูจัตตุ อายุ 38  ปี อยู่บ้านเลขที่ 202 หมู่ 22 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กพ 207 สกลนคร มาสอบปากคำ หลังจากเจ้าหน้าที่พบตัว ด.ช.เอ  ถูกปล่อยทิ้งไว้ที่บริเวณทางออกบ้านขาม เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา โดย ด.ช.เอ ยืนยันว่า ถูกนายสุชาติ ล่อลวงลักพาตัวไปนานกว่า 3 วัน ก่อนจะพาซ้อนท้ายขี่รถจยย.มาปล่อยทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว ส่วนนายสุชาติ ได้หนีเข้าไปในป่าดงระแนง

 นายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม กล่าวว่า ตามที่ได้รับแจ้งทางเฟซบุ๊กจาก สภ.โนนสูงและสื่อโซเชียล ว่า ด.ช.เอ ได้หายออกจากบ้าน และมีเพื่อนทางเฟซบุ๊กหลายคนแจ้งเบาะแสเข้ามาว่ามีบุคคลต้องสงสัยเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี น่าจะเป็นคนร้ายที่ลักพาตัว ด.ช.เอ ประกอบกับได้ประสานงานกับ พ.ต.อ.สุนัน สร้อยสุด  ผกก.สภ.พังโคน จ.สกลนคร ว่าผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว เป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ซึ่งเป็นจักรยานยนต์ในพื้นที่ จ.สกลนคร และเคยเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ ต.คลองขามและข้างเคียงหลายครั้ง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ ผู้นำชุมชน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. เพื่อเฝ้าระวังและจับตาการเคลื่อนไหว

นายวิทยา กล่าวต่อว่า กระทั่งเมื่อเย็นวันที่ 17 มกราคม 2563 ได้พบตัว ด.ช.เอ ขี่รถจักรยานยนต์คันที่ได้รับแจ้งว่าถูกขโมยมาจากพื้นที่ สภ.พังโคน จ.สกลนคร จึงได้ถามข้อมูลเบื้องต้น จนได้เบาะแสว่า ด.ช.เอ  ถูกนำมาปล่อยไว้ หลังจากถูกลักพาตัวไป 3 วัน ส่วนชายต้องสงสัยทราบชื่อคือนายสุชาติ หลบซ่อนตัวอยู่ในป่าดงระแนงท้ายหมู่บ้านหนองหล่ม  คาดว่าอาจจะเป็นการลักพาตัวไปมอมยาแล้วหลอกพาไปขโมยรถจักรยานยนต์ และนายสุชาติคงจะถูกกดดันทางสื่อโซเชียลอย่างหนัก จึงพา ด.ช.เอ กลับมา  จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว ด.ช.เอ มอบให้กับผู้ปกครอง และระดมชุดชรบ.ตรึงพื้นที่ กระทั่งเช้าวันนี้ 19 มกราคม 2563 นายสุชาติได้ออกจากป่าดงระแนงและเข้ามาภายในบริเวณวัดบ้านหนองหล่ม เพื่อขอข้าวพระกิน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการล้อมจับ และควบคุมตัวส่งตำรวจ เพื่อสอบปากคำ พร้อมกับรายงานนายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ นายอำเภอยางตลาด และพ.ต.อ.ธีรวุฒิ วงศาอ้วน ผกก.สภ.ยางตลาดทราบ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านของด.ช.เอ พบกับมารดา ด.ช.เอ  ได้ให้ข้อมูลว่า ลูกชายถูกคนร้ายลักพาตัวไปจริง โดยกลับบ้านเมื่อเวลา 19.00 น.ของวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ทำพิธีสู่ขวัญตามประเพณีอีสาน เพื่อเรียกขวัญกำลังใจกลับมา

ด้าน ด.ช.เอ  กล่าวว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.00-19.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2563 ขณะที่ตนไปเล่นกับเพื่อนที่บ้านญาติ ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน นายสุชาติ ซึ่งตนไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้มาชวนไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าด้วยกัน โดยให้ซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปเป็นเพื่อน  ตอนนั้นตนรู้สึกเคลิบเคลิ้ม จึงยอมไปกับนายสุชาติอย่างง่ายดาย ก่อนที่จะมารู้สึกตัวอีกทีในตอนเช้าของวันต่อมา ที่บ้านดงอัคคะ ต.คลองขาม ซึ่งนายสุชาติให้เสพยาด้วย คาดว่าเป็นยาบ้า โดยให้เสพ 2 ครั้งๆละ 2 เม็ด  จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ก่อนที่จะปล่อยให้ตนขับจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับบ้าน และมีชาวบ้านมาพบว่าเห็นประกาศหาในเฟซบุ๊กดังกล่าว โชคดีที่กลับบ้านด้วยความปลอดภัย

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนายสุชาติรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุพา ด.ช.เอ ไปจากบ้าน และลักขโมยจักรยานยนต์จริง และจากการตรวจปัสสาวะ พบฉี่เป็นสีม่วง แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำและขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสาเหตุใดต้องลักพาตัว ด.ช.เอไป และมีการบังคับให้เด็กเสพยาบ้าแล้วหลอกพาไปขโมยรถจักรยานยนต์จริงหรือไม่