ออกคุกมา 8 เดือน หวังรวยทางรัด อ้างไม่มีงานทำ แอบส่งยาหลังป้อมตำรวจเปิดรีสอร์ทขายยาไอซ์

ตำรวจสภ.เขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์รวบหนุ่มเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดแต่ไม่เข็ด สุดเหิมนัดส่งยาหลังป้อมตำรวจที่อันตรายคือที่ปลอดภัย แต่ไม่รอดถูกตามรวบ พร้อมของยากลางยาบ้า 638 เม็ด และยาไอซ์กว่า 1 กิโลกรัม สารภาพเคยติดคุกมาแล้ว แต่ตกงานออกมาจึงเปิดรีสอร์ทขายยาไอซ์ให้กับวัยรุ่นในพื้นที่

                เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.กันตพัฒน์ ภาคธรรม ผกก.สภ.เขาวง พ.ต.ท.เด่นศักดิ์ แววไธสง รองผกก.สส.สภ.เขาวง พ.ต.ท.ชัยชิต โอ่งกลาง สว.สส.สภ.เขาวง พร้อมชุดสืบสวนสภ.เขาวงและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เขาวง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายภาคภูมิ ศรีหาตา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 ม.9 ต.สงเปือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 638 เม็ด ยาไอซ์ 1.21 กิโลกรัม กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 7 นัด กระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 13 นัด และทรัพย์สินที่ยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯประกอบด้วยรถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน สร้อยคอทองคำ 2 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องรวมมูลค่า 1,364,000 บาท

                พ.ต.อ.กันตพัฒน์ ภาคธรรม ผกก.สภ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่านายภาคภูมิ ศรีหาตา อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นบุคคลเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดมาได้ประมาณ 8 เดือน แต่ยังมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ทั้งยาบ้าและยาไอซ์ให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.เขาวงและอ.กุฉินารายณ์ จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม กระทั่งวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.30 น.เจ้าหน้าที่พบตัวนายภาคภูมิ ขับรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีบร์อนเงิน ทะเบียน 9738 ร้อยเอ็ด มาจอดที่หลังป้อมตำรวจ บริเวณตลาดในตัว อ.เขาวง ลักษณะมีพิรุธ คาดว่าน่าจะกำลังนำยาเสพติดมาส่งให้กับเครือข่าย โดยอาศัยนัดกันที่บริเวณหลังป้อมตำรวจ ซึ่งคนร้ายอาจจะคิดว่าบริเวณนี้เป็นจุดอันตรายเพราะมีตำรวจ ซึ่งน่าจะเป็นที่ปลอดภัยที่สุด กระทั่งชุดจับกุมได้เข้าตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก จึงควบคุมตัวมาสอบสวนและขยายผลจนทราบว่านายภาคภูมิ ได้แอบเช่าห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ไว้เป็นที่เก็บยาบ้าและยาไอซ์ จึงนำตัวนายภาคภูมิเข้าตรวจค้นรีสอร์ทดังกล่าวพบยาไอซ์ 1,010 กรัม หรือ 1.10 กิโลกรัม

                โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนเองเคยถูกจับยาบ้า 400 เม็ด และถูกดำเนินคดีข้อหาผลิตยาเสพติด เนื่องจากนำยาบ้าไปคั่ว ถูกตัดสินประหารชีวิต แต่รับสารภาพได้ลดโทษจำคุก 27 ปี และติดคุกจริง 2 ปี ซึ่งเพิ่งพ้นโทษมาได้ประมาณ 8 เดือน แต่ไม่มีงานทำ จึงไปนำยาบ้า และยาไอซ์มาจากเจ้อ่าง ชาวสปป.ลาว ราคากิโลกรัมละ 400,000 บาท มาแบ่งขายเป็นถุงเล็ก ถุงละ 1 กรัม ราคา 500 บาท และหากขายหมดจะได้เงิน 500,000 บาท โดยจะตะเวนเปิดห้องพักรีสอร์ท หรือหอพักในพื้นที่ตำบลและอำเภอต่างๆไปเรื่อยๆ เพื่อเก็บซ่อนยาเสพติดและหลีกเลี่ยงการตรวจจับของตำรวจ แล้วจะนัดหมายลูกค้าให้มารับยา กระทั่งมาถูกตามจับได้ก่อน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป