แม่เย็บผ้าประทังชีวิต หาเงินทวงสิทธิ์ลูกพิการมาตรา 35

ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ จังหวัดกาฬสินธุ์ลั่น เตรียมเดินหน้าเรียกร้องสิทธิ์คนพิการ มาตรา 35 กับผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังผิดหวังกับผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดเดิม เพื่อให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ และรื้อฟื้นเรื่องใหม่ พร้อมเรียกร้องให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ความรู้แก่ผู้พิการในด้านสิทธิประโยชน์ที่พึงได้ตามกฎหมาย

                จากกรณีผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนเรื่องเงินค่าแรงผู้ดูแลคนพิการ โครงการจ้างเหมาบริการ ตามมาตรา 35 คน คนละ 1 แสนบาทต่อปี หรือเดือนละเกือบหมื่นบาท โดยอ้างว่าถูกชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ยักยอกจ่ายให้เพียงคนละ 2,000- 4,000 บาท  โดยมีการร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สภ.หนองกุงศรี สภ.สหัสขันธ์ และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่การตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการระดับจังหวัด โดยมีนายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์เป็นประธาน ได้ลงความเห็นว่าเป็นการกระทำผิดร่วมกัน จึงวอนรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตรวจสอบ คืนความเป็นธรรมให้คนพิการทั่วประเทศ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

                ล่าสุดวันที่ 23 มกราคม 2563 ที่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 1 บ้านเสริมชัยศรี  ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์  ซึ่งเป็นบ้านของนางฐานิดา อนุอัน อายุ 47 ปี ผู้ร้องเรียน ที่ตั้งเป็นศูนย์ประสานงานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ จ.กาฬสินธุ์ นางฐานิดาและผู้ปกครองคนพิการ ได้หารือกันถึงแนวทางการร้องเรียน ต่อนายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ คนใหม่ และช่วยกันตัดเย็บเสื้อผ้า ที่รับเหมามาช่วยกันทำที่บ้าน เพื่อหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางร้องเรียนขอความเป็นธรรม

                นางฐานิดา อนุอัน กล่าวว่า ในช่วงนี้ ตนและผู้ปกครองคนพิการทุกประเภท ใน จ.กาฬสินธุ์ กำลังเตรียมข้อมูลและเอกสาร เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายชัยธวัช เนียมศิริ  ผวจ.กาฬสินธุ์ ทั้งนี้ เพื่อร้องขอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดใหม่ โดยให้มีการรื้อฟื้นเรื่องใหม่ ทั้งนี้ จะมีนายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการส่วนกลาง เดินทางมาร่วมยื่นหนังสือด้วย หลังจากที่เคยเดินทางมาติดตามเรื่อง ที่ จ.กาฬสินธุ์ 2 ครั้ง ในปี 2561 และร่วมเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ กับผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ด้วย

                “การเรียกร้องและความเคลื่อนไหวของเครือข่ายผู้พิทักษ์สิทธิ์และผู้ปกครองคนพิการนั้น เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ที่แท้จริงที่พึงมีพึงได้ของคนพิการทุกประเภท เนื่องจากที่ผ่านมาได้ถูกเบียดบังจากกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากความทุกข์ยากของคนพิการ เช่น โครงการจ้างเหมาผู้ดูแลคนพิการ ตามมาตรา 35 ที่ตนและเครือข่ายผู้ปกครองคนพิการ เรียกร้องมานาน 2 ปี แต่กลับเหมือนไม่ได้รับการเหลียวแลจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยที่ผ่านมารียกร้องถึง 70 หน่วยงาน โดยคณะกรมการระดับจังหวัดผลสรุปกลับตัดสินว่าผู้ร้องเรียนเป็นฝ่ายร่วมกระทำความผิดด้วย และให้หาเงินคืนบริษัทเอกชนที่เป็นนายจ้างโครงการดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นธรรมกับคนพิการและผู้ร้องเรียน จึงอยากให้ทาง ผวจ.กาฬสินธุ์ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบใหม่ หลังจากผิดหวังกับผลสรุปของคณะกรรมการชุดเดิม ที่มีนายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานตรวจสอบ ทั้งนี้เพื่อรื้อฟื้นเรื่องใหม่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อบรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองคนพิการ และคนพิการทุกประเภท ถึงสิทธิ์ประโยชน์ที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมายด้วย” นางฐานิดากล่าว

                นางฐานิดากล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ปกครองคนพิการฐานะยากจน ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการดูแลคนพิการในครัวเรือน โดยตนดูแลทั้งพ่อ แม่ และลูกสาวที่พิการ จึงเสียโอกาสในการทำงานรับจ้างหารายได้จุนเจือครอบครัว บางครั้งไม่มีเงินแม้จะใช้จ่ายในครัวเรือน และชำระค่าน้ำค่าไฟ อย่างไรก็ตาม ในการเดินหน้าเรียกร้องสิทธิ์ และยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ เพื่อที่จะมีเงินสำรองจ่ายในการเดินทาง และเลี้ยงครอบครัวในช่วงที่ตนเดินทางไปร้องเรียน จึงไปติดต่อเอาผ้าโรงงานมาตัดเย็บ เพื่อตัดเสื้อผ้าชุดฟอร์มทำงาน ให้กับคนงานโรงงานแป้งมัน ซึ่งทำที่บ้านกับผู้ปกครองคนพิการด้วยกัน ทั้งนี้ เพื่อที่จะได้มีเงินสำหรับค่าเดินทางไปร้องเรียนดังกล่าว โดยจะมีนายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการส่วนกลาง เดินทางมาร่วมยื่นหนังสือด้วย ซึ่งคาดว่าจะเป็นในสัปดาห์หน้า เพราะต้องตัดเย็บเสื้อผ้าหาเงินค่าเดินทางอยู่