ตำรวจลำปาว เตรียมสอบปากคำผัวผญบ.ถูกกระทืบชิงทอง 2 บาท

ตำรวจสภ.ลำปาว เตรียมเชิญตัวสามีผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์มาสอบปากคำเพิ่มเติมคดี

ถูกกลุ่มวัยรุ่นดักทำร้ายร่างกายรุมกระทืบไม่ยั้งจนสลบก่อนชิงสร้อยคอทองคำ 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง ส่วนผู้ต้องสงสัย 3 คนยังคงให้การปฏิเสธ

ความคืบหน้านายธีรยุทธ ผดุงจันทร์ อายุ 45 ปี สามีนางสิมลัย ฉายประดิษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง ม.10 ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายเป็นชาย 3-4 คน ดักทำร้ายร่างกายบนถนนสายบ้านปลาเค้าน้อย ม.6 ไปบ้านหนองม่วง ม.10 ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์  โดยใช้ท่อนไม้และรุมชกแตะต่อยได้รับบาดเจ็บและสลบก่อนชิงสร้อยคอทองคำ 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุพล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ตำรวจสภ.ลำปาวเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี กระทั่งชุดสืบสวนติดตามตัววัยรุ่นต้องสงสัย 3 คนมาสอบปากคำ แต่ทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2563 พ.ต.ท.วัชรไกร ใหม่คามิ สารวัตรสภ.ลำปาว เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าคดีดังกล่าวล่าสุด พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปจนเกือบครบทุกคนแล้ว ส่วนผู้เสียหายได้สอบปากคำเบื้องต้นเนื่องจากยังคงได้รับบาดเจ็บ และจะเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ต้องรอให้ผู้เสียหายออกจากโรงพยาบาลและมีความพร้อมก่อน ทั้งนี้ในส่วนวัยรุ่นต้องสงสัย 3 คน ที่ตำรวจนำตัวมาสอบปากคำนั้น ขณะนี้ยังคงให้การปฏิเสธ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)ก่อน เนื่องจากตรวจปัสสาวะทั้ง 3 คน พบมีสารเสพติด และจะนำตัวทั้งหมดไปฝากขัง อย่างไรก็ตามในส่วนประเด็นการทำร้ายร่างกายและชิงทองนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากพนักงานสอบจะต้องรอผลการตรวจรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของผู้เสียหาย โดยเฉพาะลายมือของคนร้ายว่ามีอยู่หรือไม่ รวบทั้งการรวมพยานหลักฐานต่างๆและต้องสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อให้ยืนยันเหตุการณ์อีกครั้ง ก่อนที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปสำนวนคดีต่อไป

ด้าน น.ส.รดา ฉายประดิษฐ์ ญาติผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวหากคนร้ายต้องการทรัพย์สินสร้อยคอทองคำทำไม่ต้องร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บปางตายขนาดนี้ ซึ่งเท่าที่ดูคนร้ายประสงค์ทำให้ตาย แต่นายธีรยุทธสลบก่อนจึงหยุด ซึ่งพฤติกรรมนี้ถือว่าโหดร้ายมาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เพราะถือเป็นอันตรายต่อคนในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียง