ร้องเพื่อนบ้าน เผาถ่านกลางหมู่บ้านสร้างฝุ่นพิษ PM 2.5 ในชุมชน

ชาวบ้านนาสมบูรณ์ ตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เรียกร้ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้ามาแก้ไขปัญหาการเผาถ่านกลางหมู่บ้านของเอกชน ที่ประกอบเป็นธุรกิจมาหลายปี ทำให้เกิดหมอกควันฟุ้งกระจายในอากาศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชาวบ้าน และสร้างฝุ่นพิษ PM 2.5 ในชุมชน

               วันที่ 31 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านนาสมบูรณ์ ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ว่าได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นอย่างมาก จากสาเหตุมีเอกชน 2 ราย ทำการเผาถ่านเพื่อการค้าขาย โดยมีการสร้างโรงเผาถ่านที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่กลางหมู่บ้าน ทำให้เกิดหมอกควันฟุ้งกระจายเข้าไปในบ้าน ที่พักอาศัย เป็นการสร้างมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็ก คนชรา ผู้มีโรคประจำตัว และยังเป็นการต้นเหตุของการสร้างฝุ่นละออง PM 2.5 ในชุมชน จึงเรียกร้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้ามาแก้ไขปัญหาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในชุมชน และเพื่อความปลอดภัยในการดำรงชีวิตของชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ พบนายวิทยา ปรีศรี อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 169 หมู่ 12 บ้านนาสมบูรณ์ ต.ดอนสมบูรณ์ ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนชาวบ้านผู้เดือดร้อน กล่าวว่า ภายในหมู่บ้าน มีเอกชนที่ประกอบอาชีพเผาถ่านขายจำนวน 2 ราย โดยนำไม้มาทำการเผาแบบง่ายๆ ไม่มีระบบควบคุมป้องกันกลุ่มควันที่เกิดจากการเผาไหม้ให้มิดชิด ซึ่งขณะทำการเผาถ่านนั้น กลุ่มควันที่เกิดจากการเผา ได้ฟุ้งกระจายเข้าไปในบ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นตลอดเวลา  และชาวบ้านที่อยู่ใต้ลม ก็ต้องสูดดมกลิ่นและควันไฟนั้นเข้าไป ทำให้รู้สึกแสบตา ลำคอระคายเคือง เป็นโรคภูมิแพ้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว

นายวิทยากล่าวอีกว่า การเผาถ่านเพื่อการค้าขายของเอกชน ซึ่งทำการเผาถ่านอยู่กลางหมู่บ้านดังกล่าว ทำกันมานานหลายปี ทั้งนี้มีโรงเผาถ่านของเอกชนรายหนึ่ง ตั้งอยู่ติดกับหลังบ้านของตน ทำให้พ่อกับแม่และตนได้รับผลกระทบโดยตรง จากการที่ต้องสูดอากาศที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไป ขณะที่เอกชนที่เป็นเจ้าของโรงเผาถ่าน กลับไปพักอาศัยอยู่ไกลออกไป จึงไม่ได้รับผลกระทบ เหมือนปล่อยให้เพื่อนบ้านเป็นฝ่ายรองรับหมอกควัน และชุมชนก็มีการขยายตัวเรื่อยๆ กลับยังมีการตั้งโรงเผาถ่านกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้รับผลกระทบมากขึ้น ตนซึ่งเป็นชาวบ้านด้วยกันจะไปขอร้องให้เอกชนหยุดเผาก็ไม่ได้ บอกกันบ่อยครั้งเข้าก็อาจจะเกิดปัญหาความแตกแยก เพราะอีกฝ่ายได้รับความเดือดร้อนจากการสูดดมควัน อีกฝ่ายอ้างว่าเป็นการประกอบอาชีพ จึงได้เข้าร้องเรียนต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ อบต.ดอนสมบูรณ์ เจ้าของพื้นที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นสื่อกลางโดยเร่งลงมาสร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการเผาถ่าน และให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

นายวิทยา ปรีศรี ตัวแทนชาวบ้านผู้เดือดร้อน ยังระบุอีกว่า สิ่งที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการเผาถ่านของเอกชนดังกล่าวต้องการ  คือให้ผู้ประกอบการเผาถ่านย้ายจุดที่ตั้งโรงเผาถ่านออกไปให้ห่างไกลบ้านเรือนของเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งจัดทำระบบเตาเผาถ่านให้ได้มาตรฐานกว่าที่ทำๆกันอยู่ เพื่อควบคุมหมอกควันไม่ให้ฟุ้งกระจายไปในอากาศ ทั้งนี้ เพื่อชาวบ้านจะได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ และยังจะเป็นการลดปัญหาการสร้างฝุ่นพิษ PM 2.5 ตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย