ข่าวอัพเดทรายวัน ข่าวอาชญากรรม

ไร้การเยียวยา สุดรันทด พ่อเด็กแฝดถูกคู่อริขวดเบียร์ตีที่หัวดับ

สุดรันทด พบครอบครัวเด็กชายฝาแฝด อายุ 14 ปี ชาวตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ กลายเป็นเด็กกำพร้า อนาคตริบหรี่ หลังพ่อถูกคู่อริใช้ขวดเบียร์ตีหัวเสียชีวิต  ขณะที่แม่พิการทางสติปัญญา ทำงานหารับจ้างไม่ได้ ผู้ใหญ่บ้านเผยเป็นครอบครัวฐานะยากจน งานศพไม่มีเงินจัดการศพ  ชาวบ้านสงสารร่วมบริจาคช่วยงานและใส่ซองทำบุญ  ขณะที่ญาติกลัวตายฟรี เพราะคู่กรณีไม่มาเหลียวแล ยื่นหนังสือขอยุติธรรมช่วยเหลือ

https://www.youtube.com/watch?v=_BvO0RJNFSM&feature=youtu.be

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางละมุล ภักดีนอก ผญบ.บ้านตูม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ว่าครอบครัวของน.ส.บุญรบ ขันอาสา อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 4 กำลังได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากนายวรเชษฐ์ ภูนาชัย อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นสามีเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 26 ก.พ.63 ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ หลังถูกคู่อริใช้ขวดเบียร์ตีที่ศีรษะ  แพทย์ระบุเสียชีวิตเนื่องจากเลือดออกในเยื่อบุสมอง  ทั้งนี้ น.ส.บุญรบเป็นผู้พิการทางสติปัญญา และยังต้องเลี้ยงดูบุตรชายฝาแฝด 2 คน คือ ดช.ธนพล และ ดช.ภัทรพล ภูนาชัย อายุ 14 ปี อีกด้วย

นางละมุล กล่าวอีกว่า นายวรเชษฐ์ถูกคู่อริทำร้ายร่างกายถึงแก่ชีวิต ผ่านมากว่า 1 เดือน ยังไม่ได้รับการเยียวยาหรือเงินช่วยเหลือจากคู่กรณี ทำให้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวน.ส.บุญรบประสบกับความเดือดร้อน และตกเป็นภาระของญาติ ที่ต้องคอยให้ความช่วยเหลือด้านค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายที่ในการครองชีพ เนื่องจากขาดเสาหลักของครอบครัวไป เพราะน.ส.บุญรบรับจ้างทำงานไม่ได้ เนื่องจากเป็นผู้พิการทางสติปัญญาดังกล่าว  ปัจจุบันยังชีพด้วยเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท และการช่วยเหลือของญาติตามอัตภาพเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางพบ นายสมนึก นันรัศมี อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 ซึ่งเป็นน้าของเด็กชายฝาแฝดเล่าว่า  ตนเป็นน้องเขยของนายวรเชษฐ์ ผู้เสียชีวิต จากสาเหตุถูกคู่อริใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะก่อนเสียชีวิตดังกล่าว  ซึ่งเหตุเกิดที่หน้าเวทีหมอลำซิ่งที่เจ้าภาพงานอุปสมบท จ้างมาทำการแสดงสมโภชกองบวช  เมื่อคืนวันที่ 22 ก.พ. 63 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลบัวบาน ได้นำตัวนายวรเชษฐ์ผู้บาดเจ็บไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลยางตลาด แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ก่อนที่จะเสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 ก.พ.63 โดยหมอวินิจฉัยว่าเลือดออกในเยื่อบุสมองดังกล่าว

นายสมนึกกล่าวอีกว่าหลังเกิดเหตุนายวรเชษฐ์ถูกทำร้ายร่างกาย ตนได้แจ้งความที่ สภ.นากุงอ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.63 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาจับกุมตัวคู่กรณีที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันไป  เนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจน ผู้ต้องหาได้รับสารภาพและขณะนี้ถูกดำเนินคดีในเรือนจำกาฬสินธุ์  อย่างไรก็ตามในส่วนของการจัดงานฌาปนกิจศพนายวรเชษฐ์นั้น เนื่องจากฐานะยากจน ไม่มีเงินในการจัดงานศพ ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านสงสาร จึงได้ประกาศเชิญชวนชาวบ้าน ร่วมบริจาคคนละเล็กละน้อย ซึ่งพอได้ค่าทำบุญถวายพระและเลี้ยงอาหารญาติพี่น้องตามอัตภาพ  แต่ในส่วนของเงินเยียวยาหรือช่วยค่าปลงศพจากคู่กรณียังไม่มีเลย

ด้านนางวชิราภรณ์ นันรัศมี อายุ 46ปี น้องสาวนายวรเชษฐ์ผู้เสียชีวิต กล่าวว่าหลังจากนายวรเชษฐ์พี่ชายเสียชีวิต ตนต้องรับภาระในการดูแล น.ส.บุญรบพี่สะใภ้ ที่เป็นผู้พิการทางสติปัญญาและหลานชายฝาแฝด 2 คน ที่กำลังเติบโตเป็นวัยรุ่น ขณะที่ตนและนายสมนึกสามี ก็มีภาระที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว คือพ่อ แม่ที่สูงอายุและบุตรชาย 2 คนอีกด้วย   โดยมีอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไป แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงที่สุดคือ อนาคตของหลานชายฝาแฝด ที่ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดอย่างไรเนื่องจากกำพร้าพ่อและมีแม่ที่พิการทางสติปัญญา ทำงานหารับจ้างไม่ได้ โดยมีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 800 บาทเท่านั้น

นางวชิราภรณ์กล่าวอีกว่า หลังจากนายวรเชษฐ์เสียชีวิต ญาติพี่น้องทุกคนก็ได้แต่โศกเศร้าอาลัย เพราะน้องชายเป็นเสาหลักของครอบครัว และรู้สึกซาบซึ้งน้ำใจของชาวบ้าน ที่ร่วมกันบริจาคช่วยเหลือให้งานศพพี่ชายลุล่วงไป ซึ่งไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณอย่างไร นอกจากการช่วยเหลือชุมชนตามโอกาสอำนวย และตั้งใจเลี้ยงลูกรวมทั้งหลานชายฝาแฝดให้เป็นคนดีของสังคม อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้ล่วงเลยมากว่า 1 เดือนแล้วที่น้องชายเสียชีวิตไป ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ที่ญาติฝ่ายคู่กรณีจะมาพุดคุยหรือเยียวยาใดๆ  จึงกลัวว่าน้องชายจะตายฟรี  และตายตาไม่หลับ จึงไปขอคำปรึกษากับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่ สภ.กุง และอาสายุติธรรมจ.กาฬสินธุ์

“ทั้งนี้ เผื่อมีช่องทางได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใดบ้าง เพื่อที่จะได้เป็นทุนการศึกษาให้หลานชายฝาแฝดทั้ง 2 คน โดยรวบรวมเอกสารไปขอความช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่สำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะได้รับการช่วยเหลือเมื่อไหร่  เพราะเอกสารบางรายการยังไม่ครบ เช่น บันทึกการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและใบชันสูตรศพ   ทุกวันนี้จึงได้แต่อดทนรอ และเฝ้ารอความเห็นใจจากกระบวนการยุติธรรมว่า จะให้ความเมตตาครอบครัวหลานฝาแฝดอย่างไร หรือบังคับใช้กฎหมายให้คู่กรณีเยียวยาเมื่อไหร่  เพราะตนสงสารหลานกำพร้าฝาแฝด ที่กำพร้าพ่อและมีแม่พิการ จึงไม่อยากให้มีปมด้อยหรือเป็นเด็กมีปัญหา  หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ” นางวชิราภรณ์กล่าวในที่สุด