ข่าวอาชญากรรม

เผยพิรุธศพ “ครูต้นสน” เป็นเหยื่อฆาตกรรม ผู้การฯจัดชุดใหญ่คลี่คลายคดี จับตากลุ่มเพื่อนสนิท-เรียน ป.โท ต้องสงสัย

ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม จัดสองใหญ่ทีมชุดสืบและสอบสวน เก็บหลักฐาน พร้อมเฝ้าติดตามกลุ่มเพื่อนสนิทและเพื่อนเรียนปริญญาโท เพื่อรอผลนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันหากตายเพราะฆาตกรรมตามรวบได้ทันที ขณะที่พ่อแม่เปิดหลักฐานใหม่รอยคราบเลือดที่พบในกระดาษทิชชู่ และค้านคำให้การของเพื่อชายคนสนิทที่อ้างว่านอนคนละห้องเพราะห้องนั้นเป็นห้องเก็บของนอนไม่ได้ ด้านชาวบ้านทั้งหมู่บ้านเชื่อเป็นเหตุฆาตกรรมวอนตำรวจเร่งสางคดี

จากกรณี นายอนันต์ – นางคำปน บาไสย พ่อแม่ ของ “ครูต้นสน” หรือ นายภูมิบดินทร์ บาไสย อายุ 27 ปี ครูสอนนาฏศิลป์ โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม จ.มหาสารคาม ซึ่งเสียชีวิตภายในบ้านของตนเองใน ต.นาสีนวน อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม จากการผูกคอตาย ซึ่งพบศพเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 แต่สภาพศพมีรอยทุบศรีษะและลำคอคล้ายถูกของมีคมบาดที่ลำคอ ประกอบกับสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุสงสัยเป็นการฆาตกรรม ทำให้ พ่อแม่ ต้องร้องขอให้ตำรวจส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ทีมข่าวเฉพาะกิจได้ลงพื้นที่บ้านแสนสุข ต.นาสีนวน อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นหมู่บ้านของ “ครูต้นสน” หรือ นายภูมิบดินทร์ บาไสย อายุ 27 ปี ครูสอนนาฏศิลป์ โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม พบชาวบ้านพากันจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องการตายของครูต้นสน ส่วนใหญ่มองว่ามีเงื่อนงำและรู้สึกเสียดาย เสียใจ เพราะครูต้นสน เป็นคนดี คนเก่ง มีงานในหมู่บ้านจะมาช่วยเหลือทุกอย่าง อีกทั้งพึ่งจะเรียนจบปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และยังเป็นความชื่นชมของคนในหมู่บ้านที่สามารถผลักดันตัวเองขึ้นมาจนประสบความสำเร็จและเชื่อว่าครูต้นสน ไม่คิดฆ่าตัวตายแน่นอน แต่เป็นฝีมือฆาตกรโหดที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวมาลงโทษ

ด้าน นายแสนชัย กรจักร์ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 137 หมู่ที่ 11 ต.นาสีนวล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่ได้เข้าไปดูศพครูต้นสน และเชื่อว่าครูต้นสน ไม่ได้ผูกคนตายเองอย่างแน่นอน แต่มีคนทำร้ายแล้วนำมาแขวนคอเพื่ออำพรางคดี เพราะสภาพศพรอยเท้าก็ดูเหมือนว่าไม่ได้ตั้งใจตาย อีกทั้งมูลเหตุเป็นไปไม่ได้เพราะใครๆก็รู้ว่าครูต้นสนเป็นเด็กที่มีความตั้งใจเรัยนหนังสือและคาดหวังที่จะเรียนให้สูงๆเพื่อมาตอบแทนคุณพ่อแม่จึงรู้สึกเสียดายและต้องการให้ตำรวจเร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี

ด้าน นางแสง วงษ์แสน อายุ 73 ปี ป้าของครูต้นสน ต.นาสีนวล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า จนถึงขณะนี้เรื่องการตายของหลานชาย ทั้งหมู่บ้านไม่มีใครเชื่อว่า ครูต้นสน ผูกคอตายเอง เพราะใครๆก็รู้ว่าเป็นคนร่าเริง ด้วยการที่ครูต้นสน เรียนมาทางนาฎศิลป์ ยังมีศิลปะในการจัดแต่งดอกไม้ที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการจัดพาบายศรี หรือมีงานในหมู่บ้านจะเป็นคนที่มาช่วยงานได้ดีเสมอมา อีกทั้ง พ่อแม่ ก็จะส่งเสียให้เรียนหนังสือที่ควบคู่ไปกับการหาเงินเรียนเองและมีเป้าหมายที่คนในหมู่บ้านสนับสนุนว่าจะเป็นครูที่ดีต่อไปในอนาคต จึงไม่เชื่อเลยว่าหลานจะผูกคอตายเองแต่จะต้องมีคนร้ายร่วมมือกันทำ

จากนั้นทีมข่าวยังได้เข้าไปพบ นายอนันต์ และ นางคำป่น บาไสย พ่อและแม่ของ ครูต้นสน ที่บ้านเลขที่ 11 บ.แสนสุข หลังที่เกิดเหตุ ซึ่ง พ่อและแม่ อยู่ในอาการที่เสียใจและวิตกกังวล โดยได้พาทีมข่าวเข้าไปภายในบ้านไปดูจุดพบศพ และอธิบายถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ตอนพบศพรวมไปถึงคำให้การของเพื่อนครูต้นสนเกี่ยวกับ ห้องนอนที่ขัดกับคำพูดของเพื่อนสนิทที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกมาสอบปากคำไปก่อนหน้านี้ กับมีหลักฐานใหม่ที่เป็นกระดาษทิชชู่เบื้องคราบเลือดตกอยู่ใต้ตู้ภายในห้องนอนของครูต้นสน

นางคำป่น บาไสย แม่ครูต้นสน กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิตในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งขณะนั้นทั้งตนและพ่อครูต้นสน ทำงานรับเหมาก่อสร้างที่กรุงเทพฯ และเดินทางกลับถึงวันที่ 2 ตุลาคม ช่วงเวลา04.00 น. มาดูศพครูต้นสน ก็ถูกบรรจุภายในโลงศพแล้ว ตนจึงขอให้ญาติเปิดดูเพื่อขอดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนบำเพ็ญกุศล แต่เมื่อเห็นสภาพศพทำให้ตนตกใจมาก เพราะศพครูต้นศพ มีรอยเย็บที่บริเวณลำคอ รวมไปถึงที่ศรีษะก็มีรอยทุบ อีกทั้งภายในห้องนอนก็มีรอยเลือดกระจัดกระจายไปทั่ว รวมไปถึงกล้องวงจรปิดก็ถูกดึงปลั๊กออกและการ์ดบันทึกก็หายไป จึงได้ร้องขอให้ตำรวจส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์จังหวัดขอนแก่น

“สิ่งที่ตนได้ให้การไปนั้นก็ได้บอกตำรวจไปแล้วทั้งหมดและพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีก็ได้เข้ามาสอบสวนเพิ่มเติมหลังจากที่มีการรายงานข่าว แต่สิ่งที่สงสัยที่มารู้เอาภายหลังนั้น ว่ากล้องวงจรปิดที่อยู่ในรถครูต้นสน เมมโมรี่ และโทรศัพท์มือถือ เพื่อนที่เรียน ป.โท ชื่อ ออย เป็นผู้หญิงได้ขอไปจากพ่อช่วงเช้าของวันเกิดเหตุว่าจะไปช่วยดูว่ามีหลักฐานอะไรบ้างและจะทำการปลดล็อคโทรศัพท์ จากนั้นก็นำมาคืนในช่วงเย็น …อีกทั้งการให้สัมภาษณ์ของเพื่อนสนิทที่มานอนที่บ้านที่อ้างว่านอนกันคนละห้องนั้นไม่เป็นความจริง เพราะบ้านหลังนี้จะมีห้องของลูกนอนได้ห้องเดียวเพราะทุกครั้งเมื่อมีเพื่อนมาบ้านไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายลูกก็จะพาไปนอนในห้องเดียวกัน เพราะลูกชายมีใจเป็นผู้หญิง ส่วนอีกห้องที่อ้างถึงนั้นไม่สามารถนอนได้เพราะเป็นห้องที่เก็บของเท่านั้น รวมไปถึงเงื่อนที่ผูกที่คอก็เป็นเงื่อนตาย ซึ่งคนที่คิดจะผูกคอตายจะทำเช่นนี้หรือไม่”แม่ครูต้นสนกล่าวฯ

นางคำป่น บาไสย แม่ครูต้นสน กล่าวต่อว่า ในวันนี้ยอมรับว่ารู้สึกหวาดกลัวเพราะเท่าที่ลำดับเหตุการณ์มีเพื่อนสนิทที่เข้ามาอยู่กับครูต้นสน ก่อนพบเป็นศพหลายคน ไม่ว่าจะเป็น อ๊าตตี้ มิกต์ และโดยเฉพาะ ออย เพื่อที่เรียน ป.โท เพราะหลังจากงานศพยังมาขอผ้าไหมของครูต้นสน ทั้งที่ยังจัดงานอยู่ และว่าจะทำหุ่นต้นสนให้ แต่หลังจากที่ปฏิเสธว่าไม่ให้ก็ไม่ได้มาทำตามที่พูดเพียงแต่มารำหน้าศพกับเพื่อนๆเท่านั้น จึงเป็นเหตุให้ตนหวาดกลัวว่าครอบครัวจะถูกทำร้ายหรือเอาชีวิตจากการทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกชาย จึงไม่กล้าที่จะพูดอะไรมากนัก แต่ในวันนี้ได้ตัดสินใจแล้วที่จะทวงความเป็นธรรม เพราะสงสารลูกที่พึ่งจะเรียนจบปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และฝันที่จะเรียนปริญญาเอกต่อก็เพื่อที่จะมาดูแลครอบครัว “เสียใจจริงๆ เพราะหวังจะฝากผีฝากไข้กับลูกคนนี้” จึงขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้มีอำนาจทุกคนได้สืบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เพื่อให้ลูกชายได้ตายตาหลับ

ขณะที่ นายอนันต์ บาไสย พ่อของครูต้นสน กล่าวว่า หลังจากที่จัดงานศพเรียบร้อย ตนได้มาตรวจสอบภายในบ้านเพื่อดูว่ามีคราบเลือดกี่จุด ที่นับรวมได้หลายจุดในห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าห้อง ตู้ภายในห้อง กล้องวงจรปิด และตามผนังห้องต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มาเก็บไปพิสูจน์แล้ว แต่เร็วๆนี้ ตนได้ไปพบกระดาษทิชชู่มีคราบเลือดจึงได้นำมาเก็บใส่ถุงพลาสติกเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
“ตนรู้สึกเจ็บปวดใจมาก เพราะลูกคนนี้ พ่อและแม่ได้ทุ่มเทเลี้ยงดูหาเงินด้วยการขายแรงงานไปรับเหมาที่กรุงเทพมาตลอด ไม่ยอมให้จัดสน แต่ ครูต้นสน ก็จะพยามหาเงินเลี้ยงตัวเองเป็นการแบ่งเบาภาระ ครอบครัวเพราะครูต้นสน ก็ไม่ต้องการให้พ่อแม่ลำบาก หลายๆครั้งหากหาเงินมาได้ก็จะส่งให้พ่อให้แม่ หากการตายเป็นการฆาตกรรมจริง ก็ต้องถามว่ามาทำลูกของตนทำไม เพราะทำให้ครอบครัวนี้ตายทั้งเป็นจึงต้องการให้ตำรวจเร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง” พ่อครูต้นสนกล่าวฯ

นอกจากนี้มีรายงานแจ้งว่า ที่ สภ.นาสีนวล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นพ นรชาญ รอง ผบก.ภ.จว.มหาสารคา เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนและให้ ผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นำกำลังเข้าสืบสวนข้อเท็จจริง โดยวันนี้ ได้มีการประชุมร่วมกับ พ.ต.ท.สมจิต ชาลาเชาว์วิรุฬน์ สารวัตรสถานีตำรวจภูธรนาสีนวล และ ร.ต.อ.สมโภชน์ ศรีเศรษฐ์ พนักงานสอบส่วนผู้รับผิดชอบคดี ติดตามความคืบหน้า

พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม กล่าวว่า คดีนี้ตนได้กำชับให้ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะก่อนหน้านั้นญาติไม่ได้ติดใจ แต่เมื่อญาติติดใจสิ่งที่กำชับลงไปคือความเป็นธรรมและการทำงานในหน้าที่ของความเป็นตำรวจในทุกทางด้วยเรื่องของการผูกคอตายนั้นไปเกี่ยวกับผลทางนิติเวช ซึ่งก็ได้ส่งศพไปตรวจก่อนแล้วจึงนำมาบำเพ็ญกุศล ซึ่งกรณีนี้คงขึ้นอยู่กับผลที่จะออกมาหากเป็นการฆาตกรรม ผู้ต้องสงสัย ที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนเอาไว้เรียบร้อยแล้วก็พร้อมที่จะทำการจับกุมดำเนินคดีทันที หากผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมาแล้วเสียชีวิตเพราะการฆาตกรรม

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวระบุว่า การตายของครูต้นสน มีพิรุธหลายจุด หากมองผิวเผินเหมือนกับผูกคอตาย แต่พอดูในเรื่องหลักฐานจุดเกิดเหตุ สภาพศพหัวแตก คอมีรอยบาด ผ้าที่ใช้ผูก และผ้าที่ผูกเป็นปมด้านข้าง รวมไปถึงห้องนอนผู้ตายมีเลือดกระจายไปทั่ว อีกทั้งเมมโมรี่ กล้องวงจรปิดหายไปผู้ต้องสงสัยในคดีจึงแยกออกเป็นสองกลุ่มคือ เพื่อนชายสนิท ที่จะเป็นคู่รักที่ตามง้อกันมานานแล้วเกิดหึงหวง กับ กลุ่มเพื่อนที่เรียนปริญญาโท ที่มาเจอศพครั้งแรก ที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามก่อนรอผลนิติวิทยาศาสตร์ ที่หากพบว่าตายเพราะถูกฆาตกรรม ทั้งหมดก็จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยทันที