ข่าวอาชญากรรม

วิญญาณครูต้นสนเฮี้ยนเข้าฝันหลาน บอกถูกค้อนทุบหัวตายอย่างทรมาน ขณะที่ รองผบช.ภ.4 เผย ผู้ต้องสงสัยอ้างครูต้นสนเสพยานจนหลอนแล้วฆ่าตัวตาย

ตร.ภ.4 เดินหน้าหาความจริง “ครูต้นสน” เสียชีวิตหลังครอบครัวติดใจสาเหตุการตาย รอง ผบช.ภ.4 ย้ำชัด สอบพยานแวดล้อมแล้ว 7 ปาก ซึ่งเพื่อนชายคนสนิทอ้างร่วมกันเสพยาจนหลอน ก่อนฆ่าตัวตาย ส่วนผลตรวจนิติเวช คาด 1 สัปดาห์รู้เรื่อง ขณะที่ วิญญาณครูต้นสนเฮี้ยนเข้าฝันหลานว่าถูกค้อนทุบหัวแล้วจับแขวนคอจนตายอย่างทรมาน

จากกรณีนายภูมิบดินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ ครูต้นสน อายุ 27 ปี ครูสอนนาฎศิลป์ ที่โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านพักในหมู่บ้านแสนสุข หมู่ที่ 11 ต.นาสีนวล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาญาติพบความผิดปกติหลายอย่างเนื่องจากสภาพศพมีรอยทุบที่ศีรษะและลำคอมีรอยคล้ายถูกของมีคม จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น อย่างละเอียดอีกครั้งและมีการรื้อฟื้นคดีของ ภ.จว.มหาสารคาม ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 เปิดเผยผ่านระบบ. ZOOM ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาโดยมีผู้มาพบศพครูต้นสนผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านพัก ขณะนั้นครอบครัวไม่ติดใจเอาความแต่ต่อมาคุณพ่อและคุณแม่ของครูต้นสนติดใจในประเด็นว่าอาจจะถูกฆาตกรรม บช.ภ.4 โดย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม และได้สั่งการให้ทีมสืบสวนสอบสวน บก.สส.ภ.4 ประสานงานร่วม ชุดสสืบสวนและสอบสวน ภ.จว.มหาสารคาม ทำการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้โดยละเอียด โดยขณะนี้ตำรวจได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 7 ปาก และได้ส่งศพของผู้ตายมาตรวจ ที่ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. ขณะนี้รอผลสรุปจากทีมแพทย์อย่างละเอียดเท่านั้น

พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า มีการพูดคุยกับคุณหมอที่ทำการผ่าศพโดยตลอด และทีมสืบสวนได้เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งก็พบหนังสือตัดพ้อของผู้ตายกรณีไม่ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่แล้ว ก็ถ้าตัดสินใจผิดเหมือนตัดสินใจว่าจะไปแล้วถ้าอย่างไรก็ขอให้อภัยลูกขออะโหสิกรรมลูกด้วยประมาณนี้ แต่ทั้งหมดนี้เราก็ยังไม่สรุปอย่างเป็นทางการว่าถูกทำให้ตายหรือตายจากผูกคอตายเอง ซึ่งต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์จากคุณหมอ ซึ่งประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะชัดเจนขึ้น เมื่อดูจากเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุจากครอบครัวที่ติดใจก่อนเกิดเหตุพบว่าผู้ตายอยู่กับผู้ต้องสงสัยก็คือคนสนิทหรือใช้คำว่าสนิทมากชื่อนายปรเมศ หรือ อาตี้ (ขอสงวนนามสกุล) ตำรวจได้สอบปากคำนายปรเมศไว้ทั้งหมดและสืบสวนสอบสวนทุกอย่าง นายปรเมศก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างดีและเล่าเหตุการณ์ให้ฟังตลอดว่าตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.มีการแชทคุยกันและมีการมาพบกันและก็นอนอยู่บ้านผู้ตาย

“ต้องเรียนตามตรงว่านายปรเมศหรืออาตี้ อ้างว่า ผู้ตายกับตนได้เสพยาด้วยกัน สองวันติดกันตั้งแต่วันที่ 28 และ 29 ต.ค. ด้วยการใช้เข็มฉีดเข้าเส้นเลือด ซึ่งนายปรเมศอ้างว่าผู้ตายมีอาการหลอนแล้วก็มีอาการนั่งเขียนอะไรก็ไม่ทราบอยู่บนโต๊ะแล้วก็เดินออกจากห้องไปโดยห้องที่นายปรเมศอยู่ด้วยกันคือชั้นล่าง แต่จุดที่เกิดเหตุอยู่ในบ้านตรงบันไดทางขึ้นระหว่างชั้น 1 กับ ชั้น 2 อย่างไรก็ดีจากพยานและหลักฐานที่พบตอนนี้เบื้องต้นแนวโน้มจากหลักฐานเหมือนการลาตายอย่างไรต้องรอผลสอบของนิติเวชซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญทางคดีซึ่งถ้าเกี่ยวข้องกับการทำให้มีผู้ทำให้ตาย ยืนยันว่า บช.ภ.4 และ ภ.จว.มหาสารคาม จะดำเนินการผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน”

ส่วนที่บ้านของครูต้นสน บ้านแสนสุข เลขที่ 11 ต.นาสีนวล อ.กันทรวิชัย จ.มหารสารคาม บรรดาญาติ ต่างพากันมาให้กำลังใจ พ่อและแม่ของน้องต้นสนมากขึ้น ที่ต่างเฝ้ารอการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม่จะรู้ว่าหลักฐานต่างๆเริ่มจางหาย แต่คาดหวังว่าผลทางนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น จะเป็นบทพิสูจน์ แม้ว่าผู้ตต้องสงสัยหรือตำรวจจะเชื่อมั่นว่า ครูต้นสนผูกคอตาย แต่สำหรับ “ครอบครัวบาไสย” ผู้นำชุมชนและประชาชนกลับเชื่อว่า “ครูต้นสน” ถูกฆาตกรรม ซึ่งหากไม่ใช้คนสนิทก็เป็นกลุ่มเพื่อนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ในใจของครอบครัว

นายวิชัย จันทะนันต์ ผู้ใหญ่บ้านแสนสุข หมู่ที่ 11 ต.นาสีนวล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะร่วมกับชาวบ้านในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ ครูต้นสน มั่นใจว่าครูต้นสน ไม่ยิ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแน่นอน แต่มีเพื่อนชายหลายคนเพราะใครๆในหมู่บ้านก็รู้ว่า ครูต้นสน มีใจเป็นหญิง อีกทั้งการตายผิดปกติไม่ว่าจะยังไงก็ไม่มีเหตุผลหักล้างความคิดของตนได้ ศพผูกคอตายปกติ ไม่ใช่แบบนี้แน่นอน แต่ก็ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ชี้ชัดว่าตายเพราะอะไร หากบอกว่าเสพยาก็ต้องมีผลจากศพด้วยเช่นกัน จึงพร้อมที่จะรอฟังความเป็นธรรมจากตำรวจ สภ.นาสีนวล

นางคำปน บาไสย แม่ครูต้นสน กล่าวว่า หลังจากที่เรื่องราว “ครูต้นสน” เปิดเผยมีโอกาสในการร้องขอความเป็นธรรมทำให้ครอบครัวมีความหวังมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้แม้จะมีการส่งศพไปพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ตั้งแต่ก่อนทำการฌาปนกิจ ก็ไม่มีตำรวจเข้ามาเก็บหลักฐานแต่อย่างใด แต่ในขณะนี้มีตำรวจเข้ามาเก็บหลักฐานมากขึ้นเร็วๆ และเมื่อวานนี้ช่วงบ่ายๆ พนักงานสอบสวน สภ.นาสีนวล ได้เรียกตนเข้าไปสอบปากคำอีกรอบ ซึ่ง พนักงานสอบสวนฯบอกว่าได้ส่งลายมือจดหมายน้องต้นสนไปพิสูจน์ การเขียนตัวหนังสือว่าเป็นของน้องต้นสนจริงหรือไม่ แต่ก็ยังสงสัยว่าทำไมไม่ถามถึงผู้ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็น คนที่นอนอยู่กับครูต้นสนที่เป็นเพื่อสนิท และ กลุ่มเพื่อนเรียนปริญญาโทที่มาพบศพเป็นคนแรก ที่มีพฤติกรรมแปลกๆคือมาขอโทรศัทพ์และกล้องหน้ารถไปปลดล็อกก่อนที่จะส่งหลักฐานให้ตำรวจ เรื่องนี้ ตนก็คงได้แค่คิดเพราะไม่มีความรู้เรียนจบป.5 หวังที่จะพึ่งพาครูต้นสน เมื่อไม่มีลูกแล้ว ก็ขอความเมตตาตำรวจเอาความจริงออกมาให้ด้วย

“แม่ครูต้นสน เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ครูต้นสน ได้เข้าฝันหลานสาว ชื่อมรุยา ซึ่งเป็นลูกพี่สาว ในความฝันครูต้นสสนมาที่บ้าน ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ซึ่งหลานก็ถามว่า ใครฆ่าให้บอกมา… เค้าใช้ค้อนทุบหรือเปล่า แต่ครูต้นสนไม่ตอบ แต่ได้พยักหน้าสองครั้ง… เมื่อได้ยินความฝันบอกตามตรงว่าเสียใจมาก หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ขอให้คนที่ลงมือทำตกนรกอเวจี”

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ตำรวจ สภ.นาสีนวล ได้เรียกนายปรเมศหรือ อาตี้ ไปทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดตามคำกล่าวอ้างว่าได้เสพยากับผู้ตาย ส่วนชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ได้เริ่มทำการสืบสวนในทางลับเพื่อรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป