ข่าวด่วน ข่าวอาชญากรรม

ตำรวจกาฬสินธุ์จับหนุ่มขโมยพระนารายณ์กระทรวงอุตสาหกรรมอ้างหาเงินแทงบอลโลก

ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ตามรวบโจรแสบปีนกำแพงสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ขโมยรูปหล่อ “พระนารายณ์” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม อ้างเกิดอารมณ์ชั่ววูบ เอาไปขายตลาดพระราคา 100 บาทนำเงินไปแทงบอลโลกก่อนถูกรวบ และคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 ธันวาคม 2565 ที่ห้องสืบสวน สภ.เมือง กาฬสินธุ์ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ดร.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รอง ผกก.สอบสวน  พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สืบสวน พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันสอบปากคำเบื้องต้นนายประพันธ์  มากพงษ์พะเนาว์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 288/214 ถ.ทุ่งศรีเมือง ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องคดีลักทรัพย์ หลังก่อเหตุเข้าไปขโมยพระพุทธรูป ประจำสำนักงานอุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา จากนั้นนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ

นางบุญนิธิ ทองรักษ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักงานอุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พระพุทธรูป “พระนารายณ์” ที่ประดิษฐาน ณ ศาลหน้าสำนักงาน ข้างประตูออกด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สีทอง มี 4 กร ทรงถือ คฑา สังข์ จักร และดอกบัว หายไปตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายวศิน ศุภพิสุทธิ์ อุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ตนเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในครั้งนี้ ซึ่งพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว  ถือว่าเป็นประพุทธรูปที่มีคุณค่าทางจิตใจข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประจำสำนักงานอุตสาหกรรมมาก เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปที่ได้รับมอบจากกระทรวงอุตสาหกรรม ในโอกาสครบรอบ 70 ปี กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเสมือนเป็นหัวใจของพวกเราทุกคน โดยจะร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงในทุกเช้าวันพุธ ถือเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและศูนย์รวมจิตใจ เมื่อหายไปก็รู้สึกเสียใจ และเมื่อได้คืนกลับมาก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ที่ช่วยติดตามมาเก็บรักษาและกราบไหว้บูชาต่อไป

ขณะที่ พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งคนร้ายเข้าไปลักขโมยพระพุทธรูปนารายณ์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว แกะรอยจากกล้องวงจรปิดและติดตามไทม์ไลน์ต่างๆ จนกระทั่งทราบว่าพระพุทธรูปดังกล่าวถูกนายประพันธ์ ผู้ต้องหาขโมยไปขายให้กับแผงพระ จึงได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาและนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ ทั้งนี้ จึงขอเตือนส่วนราชการ ประชาชนทั่วไป ได้ระมัดระวังทรัพย์สินให้เข้มงวด รัดกุม เพื่อป้องกันมิจฉาชีพมาลักขโมย

ด้านนายประพันธ์ ผู้ต้องหา กล่าวว่า เหตุจูงใจที่ทำให้ตนก่อเหตุลักขโมยพระพุทธรูปครั้งนี้ เนื่องจากเกิดอารมณ์ชั่ววูบ โดยก่อเหตุในคืนวันที่ 23 ต.ค.65 เวลาประมาณ 02.00 น. พอขับรถจักรยานยนต์ผ่านด้านหน้าสำนักงานอุตสาหกรรม มองข้ามกำแพงเห็นพระพุทธรูปจึงเกิดความคิดที่จะเอาไปขาย เพื่อเอาเงินไปแทงบอลโลก โดยเอาไปขายที่แผงพระตลาดเกษตรราคา 100 บาท ทั้งนี้ ยืนยันไม่เคยก่อเหตุมาก่อน เหตุที่ทำลงไปเพราะตนตกงาน เกิดอารมณ์ชั่ววูบ และอยากได้เงินไปแทงบอลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนขอสารภาพผิด พร้อมกราบขอโทษพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนด้วย

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายประพันธ์ ผู้ต้องหา ตรวจปัสสาวะ พบผลเป็นสีม่วง และส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป