ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์พ่อร้อง ลูกสาวถูกรุ่นพี่มอมกัญชาบังคับขืนใจต่อหน้าเพื่อน

ผู้รับเหมาชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร้องลูกสาว ม.2 ถูกรุ่นพี่ ม.6 มอมกัญชาด้วยการพ่นควันใส่หลายครั้งก่อนบังคับขืนใจ ท่ามกลางเพื่อนที่นั่งมั่วสุมในกระท่อมร่วม 10 หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะครอบครัวคู่กรณีรู้จักนายตำรวจใหญ่ พ่อเผยห่วงสภาพจิตใจลูกสาวไม่กล้าไปเรียนกลัวเพื่อนล้อ

วันที่ 3 มกราคม 2566 นายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ชาวตำบลถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ กรณีที่ลูกสาวซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.2 ในอำเภอนางรอง ได้ถูกนักเรียนชายรุ่นพี่ชั้น ม.6 โรงเรียนเดียวกัน มอมกัญชาด้วยการสูบแล้วพ่นควันใส่หน้าหลายครั้งจนเบลอก่อนจะบังคับขืนใจลูกสาว ท่ามกลางเพื่อนของฝ่ายชายที่นั่งมั่วสุมสูบบุหรี่และกัญชาในกระท่อมเกือบ 10 คน เหตุเกิดช่วงเย็น ของวันที่ 21 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ที่กระท่อมนาของฝ่ายชาย เบื้องต้นทางครอบครัวได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้โอกาสครอบครัวฝ่ายชายได้พูดคุยไกล่เกลี่ย เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เนื่องจากทั้งสองก็ยังเป็นเยาวชนและเรียนหนังสืออยู่ โดยครอบครัวฝ่ายชายรับปากว่าจะรับผิดชอบด้วยการมาพูดคุยหมั้นหมายกันไว้ก่อน โดยจะจ่ายเงินมัดจำไว้ก่อน 50,000 บาท ในวันที่ 1 ม.ค.66 ส่วนอีก 2 แสนบาทอีก 1 ปีจะจ่ายให้ จากนั้นเมื่อทั้งสองคนเรียนจบค่อยมาพูดคุยกันอีกที แต่พอถึงวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางครอบครัวฝ่ายชายกลับเงียบหายไม่ติดต่อพูดคุยอะไรเลย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ที่ออกมาร้องเรียนเพราะกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะครอบครัวของคู่กรณีรู้จักกับนายตำรวจใหญ่ในพื้นที่

จากการสอบถาม ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนหญิงผู้เสียหาย เล่าว่า ตนรู้จักกับนายเอ็ม (นามสมมติ) นักเรียนชายรุ่นพี่ได้ประมาณ 3 – 4 เดือนแล้ว ก็คบหากันตามประสาวัยรุ่นบางวั นายเอ็ม ก็มารับไปโรงเรียนด้วย เพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่วันเกิดเหตุนายเอ็ม มารับพาไปขับรถเล่น แล้วพอช่วงเย็นประมาณ 6 โมงกว่า ก็พาแวะไปที่กระท่อมนาบอกว่าจะไปรดน้ำผักให้พ่อ พอไปถึงก็มีเพื่อนของฝ่ายชายประมาณ 7 – 8 คนนั่งมั่วสุมสูบหรี่และกัญชากันอยู่ จากนั้นนายเอ็ม ก็เข้าไปสูบกัญชาด้วยแล้วก็พ่นควันใส่หน้าของตนเองหลายครั้ง จนเกิดอาการเบลอสะลึมสะลือ จากนั้นนายเอ็ม ก็ดึงแขนตนเองเข้าไปในเต็นท์ในอยู่ข้างกระท่อมนาบังคับให้ถอดเสื้อผ้าและขืนใจตนเอง โดยไม่สนว่าในกระท่อมมีเพื่อนของเขาอีก 7 – 8 คนอยู่ด้วย ทำให้ตนรู้สึกอับอาย จากนั้นนายเอ็ม ก็ไปส่งตนเองที่บ้านแต่ตนไม่กล้าเล่าให้พ่อแม่ฟังเพราะกลัว กระทั่งวันที่ 24 ธ.ค.65 พ่อกับแม่รู้เรื่องจึงได้พาไปแจ้งความ หลังจากเกิดเหตุตนไม่กล้าไปโรงเรียนเพราะกลัวเพื่อนจะล้อ ส่วนเรื่องคดีก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่

ผู้เป็นพ่อยังบอกด้วยว่า ตนเองเข้าใจว่าทั้งคู่อาจจะคบหากันตามประสาวัยรุ่น ซึ่งตนก็ไม่ได้ห้ามอะไร แต่ก็พยายามตักเตือนว่าอย่าทำอะไรเกินเลยเพราะยังเรียนหนังสืออยู่ แต่พอรู้ความจริงว่าฝ่ายชายพ่นควันกัญชาใส่ลูกสาวแล้วบังคับขืนใจ พอเกิดเรื่องครอบครัวฝ่ายชายยังไม่รับผิดชอบอะไรอีก ตนก็รับไม่ได้เพราะลูกสาวตนเป็นผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียหาย ก็อยากจะขอความเป็นธรรมด้วย