ข่าวอาชญากรรม

หนุ่มคลั่งล็อกคอพระคว้ามีดฟันหัวเลือดอาบพยามปาดคอซ้ำคิดว่าจุดประทัดใส่พี่สาวเผยเคยทำร้ายคนในบ้าน

ชายวัย 44 อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ อาศัยนอนในวัดและกินข้าวก้นบาตรเกือบ 2 ปี เกิดคลุ้มคลั่งล็อกคอพระคว้ามีดฟันหัวเลือดอาบดึงจมูกฉีกทั้งลากไปกับพื้นดินนั่งคร่อมหวังปาดคอซ้ำ หลวงพี่ฮึดสู้ก่อนชาวบ้านเข้าช่วยหามส่ง รพ.หวิดมรณภาพ ชนวนเหตุมีเด็กจุดปะทัดเล่นแต่คิดว่าพระกลั่นแกล้งจึงโยนหินใส่หลังคากุฏิพอเดินมาถามไม่พอใจ พี่สาวเผยทั้งน้ำตาน้องเคยรักษาอาการทางจิต เคยทำร้ายพ่อแม่และพี่มาแล้วอยากรักษาให้หาย เพราะชาวบ้านหวาดกลัวบอกเป็นคนอันตราย

วันที่ 14 ก.พ.66 ชาวบ้านบ้านโนนตะขบ และบ้านโนนตะครอง รวมทั้งพระสงฆ์ในวัดต่างหวาดผวา หลังจากนายพนม หรือต้น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ซึ่งเข้าไปอาศัยกินข้าวก้นบาตรและนอนในวัดบ้านตะขบมาเกือบ 2 ปี แต่จู่ๆ เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา นายพนม ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งล็อกคอพระสวัส ชาคโร (ชา-คะ-โร) อายุ 47 ปี พระลูกวัดวัดตะขบ แล้วใช้มีดตะขอฟันเข้าที่ศรีษะ 2 ครั้งจนเลือดอาบ ดึงจมูกฉีก จากนั้นได้ลากพระสวัสในสภาพเลือดอาบไปกับพื้นดินแล้วนั่งคร่อมทับไว้เพื่อจะปาดคอซ้ำ แต่พระสวัสฮึดสู้ใช้มือกำมีดเอาไว้แล้วร้องตะโกนให้คนช่วย เคราะห์ดีที่วันเกิดเหตุมีงานฌาปนกิจศพที่วัดจึงมีญาติโยมเข้าไปช่วยพระสวัส เอาไว้ได้ทัน แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลลำปลายมาศ ก่อนจะแจ้งตำรวจมาควบคุมตัวนายพนม ผู้ก่อเหตุ

จากการสอบถามพระสวัส ที่ถูกทำร้ายซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ได้นัดไปล้างแผลที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในหมู่บ้าน ในสภาพมีแผลเย็บที่ศรีษะ 9 เข็ม จมูก 5 เข็ม และมีรอยมีดบาดที่มือ รอยถลอกที่เข่า ก็เล่าให้ฟังว่า ช่วงประมาณ 10 โมงเช้าวันที่ 10 ก.พ. มีเด็กมาจุดประทัดเล่นในวัด เพราะวันนั้นมีงานฌาปนกิจศพในวัด พอเสียงปะทัดเงียบลงนายพนม ซึ่งพักอยู่ใกล้กับกุฏิของหลวงพี่ก็โยนหินหลังคากุฏิที่หลวงพี่นั่งอ่านหนังสืออยู่ จากนั้นจึงเดินไปถามนายพนมว่าโยนหินใส่ทำไม แต่นายพนม ก็ไม่ตอบแต่จังหวะที่หันหลังให้นายพนม ก็ล็อกคอจากด้านหลังแล้วคว้ามีดตะขอเข้ามาฟันที่ศรีษะ2 ครั้งจนเลือดอาบ จากนั้นก็ลากหลวงพี่ไปกับพื้นใช้มืดดึงจมูกอย่างแรงจนจมูกฉีก ทั้งยังนั่งคร่อมแล้วพยายามจะใช้มีดปาดคอหลวงพี่ ก็พยายามฮึดสู้โดยใช้มือกำมีดเอาไว้แต่เนื่องจากนายพนม ตัวใหญ่หลวงพี่ก็สู้แรงไม่ไหว จึงตะโกนให้คนช่วย กระทั่งมีโยมวิ่งเข้ามาช่วย เพราะถ้าไม่มีคนได้มาช่วยหลวงพี่คงมรณภาพแน่นอน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลวงพี่ยอมรับว่าตกใจและไม่คาดคิดว่านายพนม จะทำแบบนี้เพราะที่ผ่านมาหลวงพี่ก็ดูแลนายพนมมาตลอด แต่เมื่อก่อเหตุแบบนี้ก็คงจะไม่ให้มาอยู่ที่วัดอีกแล้วเพราะไม่รู้ว่าจะมาทำร้ายใครอีก ส่วนเรื่องคดีก็ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องการรักษาก็ขึ้นอยู่กับญาติของผู้ก่อเหตุที่จะดูแล

ด้านพระอาจารย์อ๋อย อายุ 62 ปี พระลูกวัดอีกรูป บอกว่า นายพนม เข้ามาอยู่ในวัดเองโดยที่ไม่ได้ใครให้มาอยู่ แต่เห็นว่าเป็นวัดจึงไม่ได้มีใครขับไล่อะไร และเห็นว่าไม่ได้สร้างปัญหาอะไร แต่เมื่อมาก่อเหตุทำร้ายพระแบบนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการป่วย หรือเพราะฤทธิ์สุรา แต่หลังจากนี้ก็ไม่อยากให้มาอยู่ที่วัดอีก เพราะกลัวจะมาทำร้ายพระ ชาวบ้าน หรือเด็กๆ อีก เพราะจากพฤติกรรมถือว่าเป็นบุคคลอันตราย แต่หากป่วยจริงญาติก็ต้องพาไปรักษาให้หายจะได้มาทำร้ายใครอีก

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามนางกนกพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พี่สาวนายพนม บอกว่า ตอนเด็กน้องชายนิสัยเรียบร้อย พอจบ ป.6 พี่ชายได้พาไปบวชเรียนที่ จ.ลพบุรี ก็อยู่ได้หลายปีแล้วจู่ๆ น้องชายก็เล่าให้พี่สาวอีกคนฟังว่าถูกพระในวัดบังคับล่วงละเมิด อยากจะสึกแต่ตอนนั้นพ่อแม่ยังไม่ให้สึกจนอายุ 17 ปี น้องก็แอบไปสึกแล้วกลับมาอยู่ที่บ้านจากนั้นก็เริ่มกลายเป็นคนเก็บกด เคยทำร้ายพ่อแม่ จนคนในบ้านต้องพาไปรักษา ต่อมาพ่อแม่เสียชีวิต ตนจึงต้องดูแลน้อง จากนั้นน้องก็ไปบวชเป็นพระที่วัดในหมู่บ้านโนนตะครอง เพราะคิดว่าจะช่วยให้อาการป่วยดีขึ้นเพราะช่วงที่น้องมาอยู่กับตนเองก็เคยใช้สากตีตนเองและสามีด้วย แต่บวชได้ 5 ปีก็ต้องสึกอีกเพราะเวลาที่น้องเครียดจะแอบดื่มไวน์

นางกนกพร ยังเล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากน้องถูกจับก็สงสารแต่ก็สงสารพระที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บด้วย ก็ยอมรับว่าน้องผิดจริง ก็ขอโทษทุกคนที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านก็ไม่มีใครอยากให้น้องกลับมาอยู่เพราะกลัว จึงอยากให้มีสถานที่สำหรับดูแลน้องที่ป่วยทางจิต เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้อีก ส่วนตัวก็กลัวเวลาอาการน้องกำเริบจะทำร้ายตนกับสามีด้วย