ตำรวจสภ.สภ.ดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ตามจับตัวโจรแสบตะเวนขี่ซาเล้งแอบย่องเข้าบ้านหนุ่มช่างเทคนิคสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที จังหวัดขอนแก่น ตรงข้ามโรงพัก ก่อนขโมยเครื่องใช้ไฟฟ้า พระพุทธรูป และพระเครื่องจำนวนมาก อ้างตกงานไม่มีเงินใช้
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ชยานันต์ อรุณไพ ร้อยเวร สภ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ดอนจานจับกุมตัวนายราเชนทร์ มนูวิจารณ์ อายุ 36 ปี ชาว จ.นครปฐม พร้อมของกลางเครื่องใช้ไฟฟ้าสว่าน เครื่องเจีย เครื่องปั้มน้ำ ธนบัตรที่ระลึก พระพุทธรูป และพระเครื่องกว่า 30 รายการ หลังก่อเหตุเข้าไปขโมยของในบ้านของนายบุญถิ่น วรโคตร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 ม.1 ต.ดอนจาน อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ช่างฝ่ายเทคนิคสถานโทรทัศน์เอ็นบีที จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะติดตามจับตัวได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปทำแผนและชี้จุดประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเลขที่ 155 ม.1 ต.ดอนจาน อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสภ.ดอนจานและเป็นบ้านหลังเกิดเหตุ
โดยนายบุญถิ่น วรโคตร อายุ 46 ปี กล่าวว่า ช่วงเย็นของเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ตนกลับจากทำงานที่ จ.ขอนแก่น พอขับรถเข้าไปจอดหน้าบ้านเห็นความผิดปกติ ประตูบ้านมีรอยงัดและปิดไม่สนิท จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่า ข้าวของในบ้านถูกรื้อค้น มีทรัพย์สินเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น สว่าน เครื่อเจีย เครื่องปั้มน้ำ ธนบัตรที่ระลึก พระพุทธรูป และพระเครื่องหลายรายการหลายไป จึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.ดอนจาน กระทั่งสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ดังกล่าว
ด้านนายราเชนทร์ ผู้ต้องหาอ้างว่า เดิมตนเป็นชาว จ.นครปฐม แต่มาได้ภรรยาอยู่ที่บ้านบ้านหนองแคน ม.2 ต.ดอนจาน อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ระยะหลังมาไม่มีงานและไม่มีเงิน จึงขี่รถซาเล้งมาก่อเหตุบ้านหลังดังกล่าว เพราะทราบว่าไม่มีคนอยู่ วันเกิดเหตุจอดรถไว้ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นป่าต้นสัก ก่อนจะงัดประตูบ้านเข้าไปขโมยเครื่องใช้ไฟฟ้า สว่าน เครื่องเจีย เครื่องปั้มน้ำที่อยู่ชั้นล่างเอามาเก็บไว้ที่รถ จากนั้นได้เข้าไปในบ้านขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน แล้วขโมยพระพุทธรูป 3 องค์และพระเครื่องอีกหลายองค์ เบื้องต้นกำลังจะนำของไปขาย แต่มาถูกตำรวจจับเสียก่อน
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติของเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ต้องหารายนี้ปัจจุบันยังคงมีคดีลักทรัพย์อยู่ในพื้นที่ อ.ดอนจาน ซึ่งอยู่ระหว่างการคุมประพฤติ และต้องไปรายงานตัว แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลว่าเคยก่อเหตุในพื้นอีกหรือไม่ แต่เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์และนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และหากประชาชนถูกชายคนดังกล่าวไปก่อเหตุก็ให้เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ