ข่าวเศรษฐกิจ

บขส.ร้าง สามล้อเครื่องเศร้าโควิดระบาดลูกค้าหายขายรถเลี้ยงชีพ

ผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทำสถานีขนส่งผู้โดยสาร (บขส.) ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ที่เคยคึกคักพลุกพล่าน เต็มไปด้วยรถประจำทางรับส่งผู้โดยสาร กลับเงียบเหงาไม่ต่างกับ ขบส.ร้าง  ด้านอดีตประธานสมาคมสามล้อเครื่องกาฬสินธุ์เผย จากที่เคยรับส่งลูกค้าวันละหลายเที่ยว มีรายเดือนละ 1 หมื่นบาท ปัจจุบันได้บริการลูกค้าวันละ 1 คนเท่านั้น ขณะที่เพื่อนร่วมอาชีพขับสามล้อเครื่องหลายราย จำใจขายรถเอาเงินซื้อข้าวกิน

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.กาฬสินธุ์ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม ที่ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบริการ ปิดตัวลง เนื่องจากไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ และหวั่นกลัวจะได้รับเชื้อโควิด-19 จึงระมัดระวังตัวตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด

ล่าสุด จากการติดตามบรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร หรือ บขส. ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ยังพบว่าเงียบเหงาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ขนส่ง จ.กาฬสินธุ์ ตั้งจุดคัดกรองให้กับประชาชนในพื้นที่และต่างจังหวัดที่จะเดินทาง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดอีกด้วย

นางศิริกานต์ รำเพยพล เจ้าหน้าที่ประจำ บขส.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 ต่อเนื่องระลอก 4 ได้ส่งผลกระทบกับบรรยากาศการเดินทางของประชาชนเป็นอย่างมาก จากที่เคยมีรถร่วมบริการหรือรถประจำทางสายต่างๆ และเข้ามารับผู้โดยสารวันละกว่า 50 เที่ยว หรือ 30 นาทีต่อเที่ยว มีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างคึกคักพลุกพล่าน วันละหลายร้อยคน แต่ปัจจุบันเหลือเพียงรถประจำทางสายกาฬสินธุ์-วังสามหมอ จ.อุดรธานี คันเดียว ซึ่งวิ่งวันละเที่ยวเท่านั้น ขณะที่รถร่วมสายต่างๆ งดวิ่งหมด เนื่องจากไม่มีผู้โดยสารเดินทาง บรรยากาศที่ บขส.จึงเงียบเหงา ไม่ต่างกับ บขส.ร้าง

 ด้านนายไพโรจน์ หานาวี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 ซอยโสมพะมิตร เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อดีตประธานสมาคมสาทมล้อเครื่อง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนยึดอาชีพขับสามล้อเครื่องรับจ้างมาประมาณ 25 ปี แต่ก่อนมีลูกค้าใช้บริการมาก เพราะมีรถโดยสารเข้ามาจอดเทียบท่าและส่งผู้โดยสารตลอดวันถึงช่วงกลางคืน ถึงแม้ค่าโดยสารในช่วงแรกๆจะคิดคนละ 30-50 บาท แต่ก็มีรายได้ถึงวันละ 200-300 บาท รวมมีรายได้เฉลี่ย 1 หมื่นบาทต่อเดือน ถือว่ารายได้ดีทีเดียว สามารถเลี้ยงครอบครัวและส่งเสียลูกเรียนหนังสือในระดับสูงๆได้สบาย  ทั้งนี้มีผู้ประกอบการขับรถสามล้อเครื่องที่ปักหลักรับผู้โดยสารที่ บขส.ประมาณ 30 คัน หรือหากรวมทุกจุดภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ น่าจะมีประมาณ 200 กว่ารายที่ยึดอาชีพขับลามล้อเครื่องรับจ้างเป็นอาชีพหลัก

นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มาตั้งแต่ปี 2563 และระบาดรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อทุกสาขาอาชีพ รวมทั้งการคมนาคมขนส่ง ทำให้รถประจำทางงดวิ่งรับผู้โดยสาร  โดยเฉพาะส่งผลกระทบกับอาชีพขับสามล้อเครื่องรับจ้างด้วย ซึ่งทุกวันนี้เพื่อนร่วมอาชีพหยุดวิ่ง บางคนต้องจำใจขายรถสามล้อเครื่องคู่ชีพ ที่เคยพาทำมาหาเลี้ยงชีพ เพื่อนำเงินมาซื้อข้าวกิน และหันไปทำงานอย่างอื่นกันหมด ที่เหลืออยู่ก็เพียงไม่กี่คน สำหรับตนหากไม่มาขับสามล้อเครื่องรับจ้างก็ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร เพราะเป็นอาชีพหลัก แต่ละวันก็อยู่แบบทนๆกันไป ยังดีที่บ้านไม่ได้เช่า แต่ข้าวต้องซื้อ ทั้งนี้ในช่วงนี้ได้ผู้โดยสารวันละ 1 คน เท่านั้นเอง และวันนี้ก็เพิ่งจะได้ผู้โดยสาร 1 คนเช่นเดิม ไปส่งแถวๆหน้าโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ค่าโดยสาร 30 บาท ถึงแม้จะรายได้น้อย ก็ต้องปรับตัวอยู่กับมันให้ได้ ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าจะมีผู้โดยสารกลับมาใช้บริการอีก หากสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 คลี่คลาย