สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธรจัดกิจกรรมพาณิชย์ลดราคาออนทัวร์ทั่วไทยจังหวัดยโสธร Lot 21 ให้พี่น้องประชาชนได้จับจ่ายซื้อสินค้าราคาประหยัดและลดค่าครองชีพ
ที่ลานข้างสถานีตำรวจภูธรกุดชุม อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร นายไกร เอี่ยมจุฬา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดงาน โครงการพาณิชย์…ลดราคา ! ออนทัวร์ ทั่วไทย ปี 2566 ภายใต้ชื่องาน “พาณิชย์…ลดราคา ! ออนทัวร์ ทั่วไทย Lot 21 จังหวัดยโสธร” เพื่อให้ประชาชนได้มีช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพประจำวันในราคาประหยัดได้มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าและเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการ และกลุ่มเกษตรกร
นางสาวนงค์นุช อุดมคำ พาณิชย์จังหวัดยโสธร กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ได้รับอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ดำเนินโครงการพาณิชย์…ลดราคา ! ออนทัวร์ ทั่วไทย ปี 2566 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด ตามนโยบายและมาตรการดูแลค่าครองชีพ ซึ่งจัดได้ว่าได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก เกิดการชะลอตัว ปรับตัวสูงขึ้นในกลุ่มพลังงานเชื้อเพลิง ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น ค่าขนส่งสูงขึ้น ซึ่งมีผลกระทบค่าครองชีพประชาชนเป็นวงกว้างจังหวัดยโสธร จึงได้จัดให้มีการจัดงาน “พาณิชย์…ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย Lot 21 จังหวัดยโสธร” จำนวน 4 ครั้ง ๆ ละ 100 คูหา โดยแต่ละครั้งดำเนินการระยะเวลา 3 วันในพื้นที่ 4 อำเภอ ของจังหวัดยโสธร ได้แก่ อำเภอเลิงนกทา อำเภอกุดชุม อำเภอมหาชนะชัย และอำเภอเมืองยโสธร ระหว่างวันที่ 16 มีนาคม – 1 เมษายน 2566 เพื่อจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัดให้แก่ประชาชน อาทิเช่น หมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 115 บาท น่องไก่ติดสะโพก ราคากิโลกรัมละ 50 บาท ไข่ไก่ เบอร์ M ราคาแผงละ 85 บาท น้ำตาลทราย ราคากิโลกรัมละ 18 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ขวด 1 ลิตร ราคาขวดละ 40 บาท และข้าวสาร ขนาดถุงละ 5 กิโลกรัม ได้แก่ ข้าวสารหอมมะลิ ถุงละ 110 บาท และข้าวขาว 5 % ถุงละ 80 บาท ซึ่งสามารถลดภาระค่าครองชีพให้แก่พี่น้องชาวจังหวัดยโสธรได้ถึง 50 % นอกจากนี้ยังมีสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ จากผู้ผลิต/ผู้ประกอบการค้าส่ง/ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดยโสธร และต่างจังหวัด มาร่วมจำหน่ายในครั้งนี้ จำนวนกว่า 100 บูธ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการบรรเทาความเดือนร้อนและลดภาระค่าครองชีพของประชาชนกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนและการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น
