เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิสาหกิจชุมชนเหล้ากลั่นบ้านหนองแลง ตั้งอยู่ที่ 16/1 หมู่ 9 บ้านหนองแลง ต.รุ่งระวี อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ นางบุญกฐิน หลักทอง อายุ 66 ปี ประธานวิสาหกิจชุมชนเหล้ากลั่นบ้านหนองแลง กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลได้ทำการลงนามความร่วมมือ(MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคก้าวไกลได้หยิบนโยบาย “สุราก้าวหน้า” มาเป็นจุดขายของการหาเสียง และเดินหน้าผลักดันต่อ และหลังจากที่คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งแล้ว “สุราก้าวหน้า” จึงกลายเป็น 1 ใน 23 ข้อตกลง MOU ที่จะดำเนินการทันทีนั้นว่า เรื่องนี้ ตนและคณะกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเหล้ากลั่นทุกคนทุกวิสาหกิจชุมชนของ จ.ศรีสะเกษ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่า หากมีการปลดล็อคสุราพื้นบ้านแล้ว จะทำให้ชาวบ้านทุกคนสามารถที่จะผลิตเหล้ากลั่นขึ้นมาขายสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งเหล้ากลั่นของตนเป็นสินค้าระดับโอท๊อป 5 ดาว เมื่อผลิตขึ้นมาแล้วจะส่งไปขายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ในเขต จ.ศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากว่าเหล้ากลั่นพื้นบ้านจะมีรสชาติที่ถูกปากของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านนิยมกินเหล้ากลั่นมาก อีกทั้งราคาไม่แพงด้วย
นางบุญกฐิน หลักทอง ประธานวิสาหกิจชุมชนเหล้ากลั่นบ้านหนองแลง กล่าวต่อไปว่า เรื่องสุราก้าวหน้านี้ ตนอยากให้รัฐบาลโดยพรรคก้าวไกลเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนที่สุด ซึ่งขณะนี้กลุ่มเหล้ากลั่นได้รับผลกระทบจากการที่ต้องเสียภาษีเหล้ากลั่นแพงมาก โดยจะต้องติดแสตมป์บนขวดเหล้ากลั่นขวดละ 55 บาท ซึ่งพวกตนเห็นว่าแพงมาก ในสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เหล้ากลั่นเสียภาษีเพียงขวดละ 19 บาท และสาโทเสียภาษีเพียงขวดละ 5 บาทเท่านั้น ตนอยากให้รัฐบาลพรรคก้าวไกลแก้ไขปัญหาเรื่องภาษีเหล้ากลั่นแพงด้วย เพื่อที่จะช่วยให้กลุ่มเหล้ากลั่นพื้นบ้านและชาวบ้านที่มาร่วมกันผลิตเหล้ากลั่นมีรายได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงว่างเว้นจากการทำนาอีกทางหนึ่งด้วย
