ข่าวการศึกษา

พบศึกษาต้นแบบ “โรงเรียนสร้างชุมชน ชุมชนสร้างโรงเรียน” น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพัฒนาการศึกษา

คณะทำงานสภาพัฒนาการศึกษากาฬสินธุ์ร่วมกับคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านหนองตอกแป้นวิทยา  อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ สถานศึกษาแกนนำเครือข่าย ตามโครงการ “โรงเรียนสร้างชุมชน ชุมชนสร้างโรงเรียน”  โดยพบจุดแข็งคือการมีส่วนร่วมของชุมชน และจัดหลักสูตรการเรียนการสอนน้อมนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพัฒนาการศึกษาอย่างเข้มแข็ง

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ที่โรงเรียนบ้านหนองตอกแป้นวิทยา ต.หนองตอกแป้น  อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายอุทัย แก้วกล้า  ประธานสภาพัฒนาการศึกษากาฬสินธุ์  พร้อมด้วยนายทรงเดช  ก้อนวิมล เลขานุการสภาพัฒนาการศึกษากาฬสินธุ์  นายประดิษฐ์  ฤทธิโคตร คณะกรรมการศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์  นายสถิต ศรีถาวร ศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพป.) กาฬสินธุ์ เขต 2 และคณะ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจคณะครู นักเรียน โดยมีนางศิรารัตน์   นาถมทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองตอกแป้นวิทยา พร้อมคณะครู กรรมการสถานศึกษา นักเรียน  รายงานผลการดำเนินการและนำชมกิจกรรมการเรียนการสอน การฝึกอาชีพและการจัดแปลงปลูกพืชผักสวนครัว

นายอุทัย แก้วกล้า  ประธานสภาพัฒนาการศึกษากาฬสินธุ์  กล่าวว่า ตามที่สภาพัฒนาการศึกษากาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นภาคประชาสังคม ได้ร่วมกับสำนักงานศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) กาฬสินธุ์ ทั้ง 3 เขต รวมทั้งสมาคมไทบ้าน จ.มหาสารคาม ได้ขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยยึดหลักส่งเสริมความร่วมมือภาคประชาสังคม หลังสถานศึกษาตามเขตชนบทประสบปัญหาครูขาดแคลน จำนวนนักเรียนน้อย คุณภาพการศึกษาถดถอย ประสิทธิภาพการเรียนการสอนอ่อนด้อยกว่าสถานศึกษาในเมือง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและอนาคตของเด็กนักเรียน จึงได้ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดโครงการโรงเรียนสร้างชุม ชนชุมชนสร้างโรงเรียน  เพื่อหาแนวทางฝ่าวิกฤติดังกล่าว

ด้านนายทรงเดช  ก้อนวิมล เลขานุการสภาพัฒนาการศึกษากาฬสินธุ์ กล่าวว่าสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่เป็นสถานศึกษาขนาดเล็ก ทั้งระดับประถมศึกษาและขยายโอกาส โดยดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมมาตั้งแต่ปี 2560 มีสถานศึกษาเครือข่ายในหลายจังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ซึ่งรูปแบบของโครงการโรงเรียนสร้างชุม ชนชุมชนสร้างโรงเรียน นั้น ยึดหลักการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดหลักสูตรการเรียนการสอน ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่  ทำให้เด็กนักเรียน ครู และผู้ปกครอง เกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น รักโรงเรียน  รักการเรียน และรักชุมชน ผลที่ติดตามมาคือไม่เสียการเรียน สามารถไปต่อในระดับการศึกษาที่สูงขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยผลสัมฤทธิ์จากการเข้ามาส่งเสริมโรงเรียนบ้านหนองตอกแป้นวิทยา ถือเป็นการค้นพบที่สำคัญ ยกระดับเป็นสถานศึกษาแกนนำเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงได้

ขณะที่นายสมควร ภูแข่งหมอก ผญบ.หนองบัวน้อย หมู่ 3  ต.หนองตอกแป้น กล่าวว่า ตนและผู้นำชุมชน ตลอดจนปราชญ์และภูมิปัญญาชาวบ้านสาขาต่างๆ เช่น ด้านพืช ด้านอาชีพ ด้านดนตรีพื้นบ้าน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหลักสูตรเรียนการสอนในโรงเรียนบ้านหนองตอกแป้นวิทยา โดยมีการจัดแบ่งชั่วโมงการสอนในห้องเรียน มาปฏิบัติในสวนผัก โรงเรือนเพาะเห็ด เป็นกิจกรรมนอกห้องเรียน ทำให้เด็กไม่เครียด เกิดการผ่อนคลาย เรียนอย่างมีความสุข ทั้งได้ฝึกทักษะการประกอบอาชีพที่หลากหลาย มีปลูกผัก เพื่อการบริโภคและจำหน่าย สานเปลนอน นำไปจำหน่ายในชุมชน เป็นการสร้างอาชีพและมีรายได้ในระหว่างเรียนอีกด้วย

ด้านนางศิรารัตน์ นาถมทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองตอกแป้นวิทยากล่าวว่า โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนขนาดกลาง เปิดสอน 3 ระดับ คือระดับชั้นอนุบาล ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียน 139 คน  ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 18 คน ทั้งนี้ ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 สู่สถานศึกษา โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ทุกคนทั้งคณะครู นักเรียนมีส่วนร่วมตั้งแต่การปลูก การดูแล ออกดอกผล และความงอกงาม  ที่สำคัญนำผลผลิตมาบริโภคทำอาหารกลางวัน เหลือก็แบ่งปัน และจำหน่ายให้ชุมชน

“โรงเรียนบ้านหนองตอกแป้นวิทยา ได้รับความร่วมมือจากชุมชนที่เข้มแข็งด้านการทำเกษตรปลอดสารพิษ และการฝึกอาชีพ จึงได้รับโอกาสทั้งด้านความรู้ และการสนับสนุนที่ดีจากสภาพัฒนาการศึกษากาฬสินธุ์ สำนักงานศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ และ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นการปลูกจิตสำนึกประหยัด อดออม สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกๆนักเรียนมีภูมิคุ้มกันที่ดี ภาพที่ปรากฏทุกวันนี้คือนักเรียนมีทักษะชีวิตที่ดี เป็นคนดีของพ่อแม่ผู้ปกครอง” นางศิรารัตน์กล่าว