วิถีชีวิต

สุรินทร์ ปาฏิหาริย์ ยายวัย 72 โคม่านอนไม่รู้สึกตัวได้ยินเสียงระฆังที่ถวายให้วัด จึงฟื้นตื่นขึ้นมา ลูกสั่งคืนโลงอึ้งหยุดหายใจ 3 ชั่วโมง

ตายแล้วฟื้น ยายนอนห้อง ICU หัวใจหยุดเต้น ฝันเห็นพี่สาวมาบอกให้กลับบ้าน พี่จะไปแทนเองสุดท้ายเป็นจริง พี่สาวเสียชีวิตแทน

ที่อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ มีเหตุการณ์สุดชวนขนหัวลุก ด้วยคําพูดต่อๆกันมาจากปากชาวบ้านที่ดังกระฉ่อนไปทั่วตําบลรัตนบุรี จากปากของนางรจนา บุตรนิตย์ อายุ 72 ปี ชาวบ้านน้อยสนาม หมู่ 10 ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ที่ตนเองล้มกระทันหัน เนื่องจากป่วยด้วยติดเชื้อในกระแสเลือด ด้วยฤทธิ์ยาฆ่าหญ้า แพทย์จากโรงพยาบาลรัตนบุรีต้องปั๊มหัวใจเยื้อชีวิต ในขณะทึ่หัวใจหยุดเต้นไปแล้วและได้ส่งรักษาตัวต่อที่ห้อง ICU โรงพยาบาลสุรินทร์มานานหลายวัน จนแพทย์บอกญาติให้ทําใจ เพราะสารเคมีสะสมในร่างกายจนติดเชื้อในกระแสเลือด ทําให้อวัยวะในร่างกายได้รับความเสียหายหนักโอกาสรอดยาก จนญาติๆและลูกๆหลานๆจัดเตรียมงานไว้รอทึ่บ้าน ก่อนจะมีปฏิหาริย์ หรือบุญเก่าที่ทําไว้หรือไรไม่ทราบ โดยนางรจนา บุตรนิตย์ นอนในห้อง ICU ในโรงพยาบาลสุรินทร์และจิตสำนึกในฝันนั้นได้เห็นพี่สาวคือนางบัวลิน วัย 83 ปี เอาไม้มาตีตน และดึงขาในเตียง ผู้ป่วยหมายเลข 28 ที่ตนนอนในห้อง ICU โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยในจิตสํานึกหรือในฝัน พี่สาวคือนางบัวลินได้บอกให้ตนกลับบ้านได้แล้ว ให้รีบไปดูวัวควาย และลูกหลานอยู่ทางบ้าน เดี๋ยวพี่จะไปแทนเองเพราะพี่หมดกรรมแล้ว สุดท้ายตนเองรอดแต่พี่สาวมาตายแทน

วันที่ 18 ต.ค.66 หลังจากผู้สื่อข่าวได้ทราบเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวก็ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 10 ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ชึ่งญาติๆและลูกๆหลานๆต่างกําลังเก็บข้าวของจากงานศพของ นางบัวลิน เกษรจันทร์ อายุ 83 ปี ที่ล้มป่วยและเสียชีวิตกะทันหันด้วยโรคเส้นเลือดใหญ่ในสมองแตกเฉียบพลัน หลังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุรินทร์เพียง 2 คืน ก็จากโลกใบนี้ไปโดยไม่มีวันคืนหวนกลับ และเต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนเศร้า

ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางวิเชียร เขาหาญ (เสื้อลายสีน้ำตาล) อายุ 62 ปีลูกสาวของคุณยายบัวลินผู้เสียชีวิต ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า นางบัวลินแม่ของตนนั้น ไม่มึโรคประจำตัวใดๆมีเพียงเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆตามประสาคนชรา โดยปกติก็จะเป็นคนแข็งแรง เดินไปมาหาสู่กับน้องสาวนางรจนาเป็นประจำ และมีนิสัยใจดีมีเมตตากับทุกคน จนมามีอาการน็อคตนจึงพาส่งโรงพยาบาลและทราบว่าป่วยเส้นเลือดใหญ่ในสมองแตกเฉียบพลันทำให้มีเลือดออกภายในสมองมาก และเสียชีวิตในที่สุด

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามนาง รจนา บุตรนิตย์ อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 31 หมู่ 10 บ้านน้อยสนาม ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยที่นาง รจนา เล่าว่า หลังจากตนเองนอนในห้อง ICU ในโรงพยาบาลสุรินทร์มาตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม หลายวันนั้นจิตของตนได้ล่องลอยออกจากร่างและเหมือนฝันไปว่า “ตัวตายตัวแทน” คือในฝันนั้นตนเห็นพี่สาวคือนางบัวลินเดินเอาไม้มาตีตนให้ออกจากเตียงโรงพยาบาลสุรินทร์ให้กลับบ้านซะให้ไปดูวัว-ควายที่เลี้ยงไว้ และไปดูลูกๆหลานๆ ที่บ้านของตนในวันจันทร์นี้ เดี๋ยวพี่จะไปแทนตนเอง แต่พอตนฟื้นคืนชีพมาและได้นอนรักษาตัวจนถึงวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2566 หมอให้ตนกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ แต่พอมาถึงเช้าของวันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2566 ตนก็มาทราบข่าวว่าพี่สาวคือนางบัวลิน เกษรจันทร์ อายุ 83 ปี ได้ล้มป่วยกระทันหันเช่นกันจนแพทย์จากโรงพยาบาลรัตนบุรียื้อชีวิตปั๊มหัวใจแล้วส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ได้เพียง2วันพี่สาวนางบัวลิน ก็มาเสียชีวิตไป และนางรจนา ยังเล่าว่า ในจิตสํานึกที่ฝันไปนั้น พี่สาวนางบัวลินได้บอกให้ตนกลับบ้านไปซะเดี๋ยว พี่จากไปแทนตนเอง ตนเห็นเมืองของผีหรือนรกใครตายไปเงินทองที่ติดตัวไป เหล่าบันดาลพวกผีทั้งหลายจะมาแย่งเอาไปหมด แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่ใส่ติดตัวไป และตนเองก็ได้เห็นผีชาวบ้าน ญาติพี่น้องที่ตายไปก่อนหน้านี้ มาคอยรับตนและได้พาตนไปที่วัดบ้านน้อยสนาม แต่ตนเองไม่สามารถเดินข้ามตอต้นยางขนาดใหญ่หน้าวัดไปได้สักที่ จนล่วงเลยมาถึงตี 4-5 ได้มีอดีตหลวงพ่อรูปก่อนของวัดบ้านน้อยสนามมาตีระฆัง 3 ครั้ง จนดังก้องในหูของตนก่อนที่ตนจะรู้สึกตัวและฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ตนจำได้ดีว่าตนเคยทำบุญโดยซื้อระฆังถวายวัดและวันที่ฟื้นตนก็ได้ยินเสียงระฆังดังกล่าว จึงทำให้ตนฟื้นขึ้นมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

อัพเดทล่าสุด เมื่อ 18/10/2023 18:21 น. by อินทรีภูพาน