หมดทางสู้ผู้สูงอายุในตำบลนามะเขือปรับตัวสู้แก๊งค์พะยูงจัดตั้งแคมป์กินข้าวป่ารับมือโจร หลังถูกตัดไปแล้ว 4 ต้น แถมตำรวจจับไม่ได้ ต้องอาศัยกำลังบ้าน วัด โรงเรียน รักษาป่าพะยูง เผยเหตุเศร้าหลังทำพิธีบวชป่าไม่ถึง 2 อาทิตย์ ต้นพะยูงขนาดใหญ่ครึ่งร้อยถูกตัดกลางดึก
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 16 ม.ค. ที่โรงเรียนชุมชนนามะเขือวิทยา ว่าที่ร้อยโทอุทิศ คงรอด นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยนายคมสันต์ เสวยราช ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นค อำเภอสหัสขันธ์ นางสมประสงค์ สุพัฒนาพงศ์ นายก ทต.นามะเขือ ตรวจเยี่ยมแคมป์เฝ้ายามบริเวณสนามกีฬาหน้าโรงเรียนชุมชนนามะเขือวิทยา ที่มีป่าต้นพะยูงหลายสิบต้น มีนายสมจิตร จำปาสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนนามะเขือวิทยา พร้อมชาวบ้านผู้สูงอายุ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ อปพร. และครู ในโรงเรียน เป็นกำลังในการเฝ้ายาม เพื่อรักษาต้นพะยูงของชุมชนให้อยู่รอดปลอดภัยหลังถูกตัดไป 4 ต้น
นายสมจิตร จำปาสาร ผอ.ร.ร.ชุมชนนามะเขือวิทยา กล่าวว่า ในปี 2561 และปี 2562 ต้นพะยูงหน้ารั้วโรงเรียนไป 4 ต้น แต่ที่เศร้าใจคือการลักลอบตักในปี 62 หลังจากที่ทางชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่นและโรงเรียนได้นิมนต์พระเกจิมาทำพิธีบวชป่า ในเวลานั้นเหนือต้นไม้พะยูงอยู่ 34 ต้นจากทั้งหมด 36 ต้น ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็เกิดเหตุเศร้าขึ้นเมื่อต้นไม้พะยูงที่เพิ่งทำพิธีบวชไปถูกตัดโค่นลงอีก 2 ต้น ทำแบบไม่กลัวบาปทิ้งไว้แต่ผ้าเหลืองและเศษไม้ให้ดูต่างหน้า คดีแรกก็ตามหาคนร้ายไม่ได้ จนถึงคดีที่สองก็ยังเงียบ และเมื่อมีการประชุมกันทั้งชาวบ้าน โรงเรียน ผู้นำชุมชน และท้องถิ่น จึงมีความเห็นว่าเมื่อจับไม่ได้หาคนร้ายไม่เจอก็รวมพลังกันป้องกัน จึงรวมตัวกันจัดเวรยามกำลังผสมทั้งเทศบาล ชาวบ้าน ผู้สูงอายุ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครอง อ.สหัสขันธ์ ผลัดเปลี่ยนกำลังเวียนมาตั้งแคมป์เวรยาม หาข้าวหาปลามากินกันก่อนจะแยกย้ายปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทำแบบนี้มานานกว่า 3 เดือนแล้ว
นายสมจิตร กล่าวอีกว่า ในการแก้ปัญหาระยะยาวทางชุมชนได้จัดผ้าป่าซื้ออุปกรณ์ติดชิปฝังในต้นไม้พะยูงที่มีเหลืออยู่ตอนนี้ 32 ต้น อายุกว่า 50 ปี พร้อมจัดการมอบต้นพะยูงในเขตโรงเรียนให้เป็นของธนารักษ์ทั้งหมด ต้องขอบคุณท่านนายอำเภอสหัสขันธ์ที่ช่วยแนะนำและหาวิธีแก้ไขให้กับชาวบ้าน ขอบคุณ ผู้นำ อปท. ผู้นำหมู่บ้าน หมู่ 1,7,9และ 12 ต.นามะเขือ ที่ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาลักลอบตัดไม้พะยูง ตอนนี้ชาวบ้านช่วยเหลือตัวเองด้วยการพึ่งพากันเอง เพราะไม่อยากให้เกิดการลักลอบตัดไม้พะยูงซ้ำอีกเป็นครั้งที่
3