มุกดาหาร – ชุดปราบปรามศุลกากร สนธิกำลังยึดอโวคาโดจำนวน 6,500 กก. ผู้ต้องหา 2 คน พร้อมรถยนต์ 2 คัน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร
ตามนโยบายของ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ให้เข้มงวดในการตรวจสอบการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นายภาคภูมิ เลิศวัฒนารักษ์ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม และนางสาวกัญญูณัฐ พิพัฒน์กิจไพศาล ผู้เชี่ยวชวชาญด้านการสืบสวนและปราบปราม ได้สั่งการให้นางฟ้า เลิศหงิม ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนและปราบปราม 1 นายอภิณินทร์ ชิณวงศ์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ดำเนินการตามนโยบายอย่างเข้มงวด 2
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 01.00 น. นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากรหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนและปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปราม นำโดยนายสมชาย โชคเฉลิมวงศ์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ชุดร้อย ทหารพรานที่ 2105 ร้อยกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าว สำนักการข่าว กอ.รมน. เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ด่านตรวจประมงมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.มุกดาหาร ได้ร่วมกันตรวจค้นรถกระบะบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU สีเทา หมายเลขทะเบียน ผต-9212 นครสวรรค์ มีนายทรงสิทธิ์ วังหนองหว้า เป็นผู้ควบคมยานพาหนะ และรถยนต์กระบะยี่ห้อ TOYOTA สีเทา หมายเลขทะเบียน ผน- 5036 อุบลราชธานี โดยมีนายพรเทพ เยี่ยมยอด เป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ ที่เกิดเหตุบริเวณสามแยกไฟแดงนิคมคำสร้อย ถ.ชยางกูร อ. นิคมคำสร้อย จ. มุกดาหาร
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นพบสินค้าประเภท อโวคาโด จำนวนมากได้บรรทุกมาเต็มคันรถทั้ง 2 คัน รวมอโวคาโดประมาณ 6,500 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งอโวคาโดดังกล่าวมีเมืองกำเนิดต่างประเทศ จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นไม่มีเอกสารการผ่านพิธีการศุลกากรที่ถูกต้องมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ในชั้นจับกุมสินค้าที่ตรวจพบดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางทั้งหมดตามกฎหมายศุลกากร ซึ่งเจ้าของผู้ครอบครอง หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ส่งด่านศุลกากรมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
