อุบลราชธานี – ทีมวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ค้นพบผึ้งสายพันธ์ใหม่ของโลก “ผึ้งหยาดอำพันภูจอง” ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 ที่ห้องประชุมโกมุท ชั้น 4 อาคารเรียนและปฎิบัติการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ธรรมรักษ์ ละอองนวล รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี แถลงข่าว ค้นพบ
“ผึ้งหยาดอำพันภูจอง” ที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอยนี้ เป็นผึ้งสายพันธ์ใหม่ของโลก ชนิดใหม่ โดยเมื่อ ปี พ.ศ.2561 ขณะที่ อาจารย์ ดร.ประพันธ์ พร้อมด้วยอาจารย์ท่านอื่นในสาขาวิชาชีววิทยา และนักศึกษาผู้ช่วยวิจัย กำลังสำรวจพื้นที่ในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในเรื่องของแมงมุมฝาปิดโบราณในบริเวณทางลาดเข้าสู่แก่งกะเลา ก็สังเกตเห็นท่อสีเหลือง ๆ ยื่นออกมาจากผาดิน ลักษณะเหมือนเป็นยางไม้ และพบว่ามีผึ้งโผล่หน้าออกมา จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ต่อมาได้เดินทางกลับไปสำรวจภูจองนายอยอีกครั้ง เพื่อจะให้ได้ตัวผึ้งเป็น ๆ กลับมาศึกษาในห้องปฏิบัติการ (ห้องแลป)
ดร.ประพันธ์ ไตรยสุทธิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่าจากการสำรวจของทีมวิจัยจากสาขาวิชาชีววิทยา มากกว่า 24 ครั้ง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย โดยเฉพาะบริเวณพลาญป่าชาด ที่พบผึ้งหลายชนิดมาหากินในเขตนี้นั้น ทีมวิจัยไม่พบผึ้งตามบริเวณดอกไม้ แต่พบรังผึ้งเท่านั้น และจากการใช้เวลาตรวจสอบมากกว่า 2 ปี ด้วยการทบทวนเอกสารวิชาการ ฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และนักชีววิทยาทั่วโลก จึงสรุปได้ว่า ผึ้งที่พบที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอยนี้ เป็นผึ้งชนิดใหม่ ที่ยังไม่เคยมีรายงานมาก่อน โดยทีมผู้ค้นพบให้ชื่อตามภาษาไทยว่า “ผึ้งหยาดอำพันภูจอง” ซึ่งผึ้งหยาดอำพันภูจอง (phuchongensis) คำว่า “phuchong-” มาจากชื่ออุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จังหวัดอุบลราชธานี ที่เป็นสถานที่พบผึ้งชนิดนี้เป็นครั้งแรก ส่วน “-ensis” เป็น suffix ภาษาละติน หมายถึง “originating in”
อาจารย์ ดร.ประพันธ์ ไตรยสุทธิ์ ให้เหตุผลถึงการตั้งชื่อนี้ว่า “การตั้งชื่อสัตว์สายพันธุ์ใหม่ เราควรให้เกียรติสถานที่ที่เขาอยู่อาศัย และลักษณะเด่นเฉพาะที่งดงามของเขา จะทำให้คนสนใจในสถานที่ที่ค้นพบและต่อยอดเศรษฐกิจในพื้นที่จะดีกว่าครับ ผมหรือนักวิจัยเป็นเพียงคนที่เอาเขามานำเสนอ ผึ้งเขามีอยู่ของเขาตรงนั้นอยู่แล้ว” ผึ้งหยาดอำพันภูจอง จัดอยู่ในสกุล Anthidiellum สกุลย่อย Ranthidiellum ซึ่งเป็นกลุ่มของผึ้งหายากที่เคยมีการค้นพบก่อนหน้าเพียง 4 ชนิดในโลกเท่านั้น และมีการค้นพบเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การค้นพบทั้งหมดเป็นเพียงการพบเจอตัวผึ้ง โดยไม่ทราบแง่มุมทางชีววิทยาใด ๆ เลย ซึ่งมีการพบรังของผึ้งกลุ่มนี้ว่า มีการสร้างท่อยางไม้เป็นปากทางเข้ารัง เพียงครั้งเดียวเท่านั้นจากประเทศมาเลเซีย สำหรับประเทศไทย มีการพบผึ้งกลุ่มนี้ 2 ชนิด ผึ้งหยาดอำพันภูจอง จึงจัดเป็นชนิดที่ 5 ของกลุ่มนี้ เน้นย้ำให้เห็นถึงความหายากของผึ้งกลุ่มนี้เป็นอย่างดี
สำหรับ ผึ้งหยาดอำพันภูจอง มีลักษณะอาศัยอยู่ในรังบนผาดิน จะใช้ยางไม้ในการสร้างรังและปากทางเข้ารัง โดยเฉพาะยางต้นเหียง หรือยางเหียง ที่ขึ้นในป่าเต็งรัง มีมากในอุทยานแห่งชาติภูจอง ตอนที่ทีมวิจัยเจอรังผึ้ง เป็นช่วงที่แสงแดดส่องกระทบรังผึ้ง มีสีเหลืองอำพันระยิบระยับ เพศเมียจะมีเหล็กใน (sting) ใช้สำหรับป้องกันตัว ซึ่งมีพิษอยู่เล็กน้อย สามารถต่อยได้หลายครั้ง ต่างจากผึ้งพันธุ์ที่ให้น้ำหวานที่จะต่อยครั้งเดียวแล้วผึ้งจะตายไป เนื่องจากสลัดเหล็กในออกไม่ได้ ปกติผึ้งหยาดอำพันภูจองจะไม่ต่อยคนหากไม่ถูกรบกวนมากจนเกินไป ขณะที่เพศผู้ หลังจากออกจากดักแด้ จะมีบทบาทเฉพาะการสืบพันธุ์กับเพศเมียจากนั้นก็จะตายไป
ในรัง ๆ หนึ่งของผึ้งหยาดอำพันภูจอง จึงมีเฉพาะผึ้งเพศเมียเพียงตัวเดียว ที่ทำหน้าที่ทุกอย่าง ตั้งแต่สร้างรัง วางไข่ และออกหาอาหารให้กับลูก ผึ้งหยาดอำพันภูจอง (Phujong resin bee) หรือ Anthidiellum (Ranthidiellum) phujongensis n. sp. เป็นผึ้งเฉพาะถิ่นในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และพบได้เพียงที่เดียวเท่านั้นบนโลกนี้