ช่างพิการขาขาดวัย 52 ปี ชาวอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดร้านรับซ่อมเครื่องยนต์ฟรีให้กับลูกค้าขาประจำ และลดราคาพิเศษแก่ลูกค้าหน้าใหม่ในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม เจ้าตัวระบุอยากทำความดีเพื่อพ่อขณะที่ชาวบ้านเผยเป็นคนสู้ชีวิตเลี้ยงครอบครัวด้วยการเปิดร้านซ่อมเครื่องยนต์ทุกชนิด แถมปีนขึ้นหลังคาต่อเติมบ้านให้ตนเองแม้ร่างกายพิการ
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งว่า ที่ร้านซ่อมจักรยานยนต์และเครื่องยนต์การเกษตรร้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่บ้านดอนอุดม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเจ้าของร้านพิการขาขวาขาดเหนือหัวเข่า แต่มีฝีมือดีในการซ่อมเครื่องยนต์ทุกชนิด นอกจากนี้ ในช่วงที่ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน ก็จะปีนขึ้นหลังคา เพื่อเชื่อมโครงหลังคาต่อเติมบ้านให้กับตนเอง โดยไม่ได้จ้างคนช่วย สร้างความสนใจให้กับชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีขาเดียวแต่ยังสามารถปีนขึ้นหลังคาบ้านที่มีความสูงกว่า 6 เมตรได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนคนปกติ นอกจากนี้ช่างคนพิการดังกล่าวยังเตรียมเปิดร้านรับซ่อมเครื่องยนต์ฟรีให้กับลูกค้าในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2562 นี้ เนื่องจากอยากทำความดีเพื่อพ่ออีกด้วย ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยที่ร้านซ่อมดังกล่าว อยู่หน้าหมู่บ้านดอนอุดม ติดถนนสายปากทางเขื่อนลำปาว พบนายธวัชชัย ดีจันทร์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 16 หมู่ 17 บ้านดอนอุดม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กำลังซ่อมรถจักรยานยนต์ให้กับลูกค้าอย่างมีความสุข โดยภายในร้านยังมีเครื่องสูบน้ำ เครื่องตัดหญ้า และอุปกรณ์การเกษตรหลายชนิด ที่ลูกค้านำมาให้ซ่อม และซ่อมเสร็จแล้วรอลูกค้ามารับคืน วางอยู่เต็มไปหมด
นายธวัชชัย ดีจันทร์ ช่างซ่อมวัย 52 ปี กล่าวว่า ตนไม่ได้เรียนวิชาชีพทางช่างมาโดยตรง โดยสมัยเรียนก็เรียนสายวิทย์-คณิต จบระดับ ปวส. จากนั้นก็ไปขายแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่กรุงเทพฯ ต่อมาแต่งงานมีครอบครัว แต่ประสบอุบัติเหตุขับจักรยานยนต์ถูกรถกระบะชน ทำให้ขาขวาขาดเหนือหัวเข่า กลายเป็นคนพิการ ทำงานไม่ได้ พอดีมีญาติแนะนำมาให้เป็นคนงานเฝ้าบ่อกุ้งที่บ้านดอนอุดม ซึ่งเจ้าของบ่อกุ้งมีหลายบ่อ ซึ่งตนก็หน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ พยายามเก็บหอมรอมริบเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูก เจ้าของบ่อกุ้งใจดี ที่เห็นใจคนพิการอย่างตน ได้แบ่งบ่อกุ้งให้ตนเช่าเลี้ยงกุ้ง เพื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น ก่อนที่จะแบ่งขายบ่อกุ้งให้ตนประมาณ 2 งาน เพื่อปลูกบ้านปูนชั้นเดียวอยู่อาศัย ก่อนที่ตนจะเปิดหน้าบ้านเป็นร้านซ่อมดังกล่าว
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า เนื่องจากทำเลที่ตั้งร้านอยู่ติดถนน ทำให้เห็นการมาการไปของผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งภายในชุมชนและละแวกใกล้เคียง และเดินทางไปเที่ยวเขื่อนลำปาว โดยเฉพาะเห็นใจคนที่มีธุระเร่งด่วน แต่รถเสียระหว่างทาง เช่น ยางรั่ว โซ่ขาด เครื่องดับ น้ำมันหมด ที่ต้องจูงหาร้านซ่อม หรือรอให้ญาติมารับ ทำให้เสียเวลา จึงเกิดไอเดียเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ควบคู่กับร้านขายกุ้ง อย่างไรก็ตามการซ่อมรถนั้น เนื่องจากไม่ได้เรียนมาโดยตรง ก็อาศัยพื้นฐานเคยจับเคยซ่อมให้ลูกเมียและเพื่อนบ้าน และถามช่างคนอื่นๆที่รู้จักกัน รวมทั้งอ่านวิธีการซ่อมจากคู่มือและศึกษาจากยูทูป รถรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ยี่ห้อต่างๆ ก็พัฒนาฝีมือมาเรื่อยๆ ขยายไปถึงการซ่อมแซมเครื่องยนต์การเกษตรต่างๆ ซึ่งลูกค้าก็บอกต่อๆกันไปแบบปากต่อปาก ทำให้มีลูกค้ามากขึ้น และเข้ามาใช้บริการที่ร้านอย่างต่อเนื่อง โดยตนเป็นคนซ่อมคนเดียว บางครั้งลูกเมียก็มาช่วยหยิบจับอะไหล่ให้ สำหรับค่าบริการตนคิดราคาถูก ไม่หวังกำไรมาก บางคนไปนาไปไร่ ไม่ได้พกเงินมา หรือฐานะยากจน เด็กนักเรียนจะไปโรงเรียนรถเสีย ก็ซ่อมให้ฟรี เพราะเห็นใจชาวบ้าน เข้าใจเขาใจเราเพราะเรายากจนมาก่อน
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า สำหรับวันที่ 5 ธันวาคม นี้ เป็นวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งตนก็มีลูก จึงอยากที่จะทำความดีเพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวงร.9 และเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจและคืนกำไรให้กับลูกค้า ตนจะจัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยจะเปิดร้านซ่อมเครื่องยนต์ฟรีโดยไม่คิดค่าแรงให้กับลูกค้า และลดราคาพิเศษแก่ลูกค้าหน้าใหม่ด้วย
ด้านนายอุไร ภูบำรุง อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 160 บ้านเหล่า ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าตนเป็นลูกค้าขาประจำของช่างธวัชชัย ชื่นชอบฝีมือการช่าง ที่มีฝีมือ ซ่อมแล้วจบ ใช้งานได้นาน คิดค่าบริการราคาประหยัด รถจักรยานยนต์ หรือเครื่องสูบน้ำ เครื่องตัดหญ้าก็นำมาซ่อมที่นี่ประจำ เสน่ห์ของช่างธวัชชัยคือ ทำงานได้คล่องตัวแม้ว่าขาพิการ หรือไม่ว่าเครื่องยนต์ที่ลูกค้านำมาซ่อมจะติดขัด มีปัญหาตรงไหน จะแก้อะไหล่เก่า หรือเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ ก็แจ้งลูกค้าทุกครั้ง โปร่งใสและคิดราคายุติธรรมให้กับลูกค้าทุกคน เป็นคนพิการสู้ชีวิตที่ทึ่งและน่าเอาเป็นตัวอย่างคนหนึ่ง
ด้าน ด.ญ.อุมาพร ดีจันทร์ อายุ 14 ปี ลูกสาวนายธวัชชัย กล่าวว่า ภูมิใจในตัวพ่อมาก ที่ถึงแม้ร่างกายจะพิการ ขาขาด แต่ก็สู้ชีวิต หารายได้เลี้ยงตนกับแม่อย่างไม่ย่อท้อ พ่อไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย มีความสุขกับการทำงานซ่อมเครื่องยนต์ให้ชาวบ้าน หากมีเวลาว่างตนก็จะมาช่วยงานพ่อ หยิบนั่นหยิบนี่ช่วยพ่อ บางครั้งก็จะหัดซ่อมเครื่องยนต์พื้นฐาน ช่วยถอดหรือประกอบเครื่องเล็กๆน้อย เพื่อเป็นการฝึกทักษะไปในตัว ซึ่งตนจะตั้งใจเรียนและจะสมัครเรียนทางวิชาช่างยนต์ เพื่อสืบทอดอาชีพช่างซ่อมเครื่องยนต์ที่พ่อทำไว้ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือคนใช้รถ และผู้ใช้เครื่องยนต์การเกษตร อนาคตก็จะเปิดร้านขายอะไหล่ด้วย เพื่อที่พ่อจะไม่ลำบากเข้าไปซื้อในเมืองมาบริการลูกค้า