ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายหลังเสร็จสิ้นการจับหมายเลขประจำตัวผู้สมัครตามที่ กกต.จัดให้มีขึ้นในวันแรก
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หลายสมัยจังหวัดหนองบัวลำภู หัวหน้าทีมพรรคไทยสร้างไทย จังหวัดหนองบัวลำภู และผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรคไทยสร้างไทย รวมทั้ง นางเกษร บุดดา อดีตประธานสตรีจังหวัดหนองบัวลำภู และอดีตประธานกลุ่มคนเสื้อแดงหนองบัวลำภูที่ส่งสามีลงสมัคร ได้พาผู้สมัครทั้ง 3 คน 3 เขต ภายหลังผู้สมัครจับได้หมายเลขประจำตัวทั้ง 3 เขตโดยเขต 1 นายสุรชัย ทวีคูณ ได้หมายเลข 8 สำหรับเขต 2 นายรุ่งเพชร ศรีกาญจนา ได้หมายเลข 2 และ เขต 3 นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ได้หมายเลข 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายวิชัย สามิตร หัวหน้าทีมผู้สมัครพรรคไทยสร้างไทย ทั้ง 3 เขต แจ้งให้กลุ่มผู้สนับสนุนทราบ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความชื่นชมและร่วมแสดงความยินดีด้วยการมอบดอกไม้และมาลัยคล้องคอให้กับผู้สมัครทั้ง 4 คน
ก่อนเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัดหนองบัวลำภู นายวิชัย สามิตร หัวหน้าทีมพรรคไทยสร้างไทย จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่อหน้าผู้สนับสนุนผู้สมัครว่าทุกคนล้วนเป็นลูกหลานของชาวหนองบัวลำภูโดยกำเนิด และขอให้พรรคเป็นทางเลือก ทางออกของประเทศไทยและขอเรียนเชิญพี่น้องชาวจังหวัดหนองบัวลำภู มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์การเมืองดับแลนด์สไลด์ไปด้วยกัน โดยในวันนี้ทีมผู้สนับสนุนพรรคมีความมั่นใจเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ในการเตรียมผู้สมัครทั้ง 3 เขต และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 3 คนเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาโดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้ขอโอกาสเป็นทางเลือกของชาวหนองบัวลำภู โดยเฉพาะชาวหนองบัวลำภู ต้องการเปลี่ยนพรรคผมยืนยันว่า ไทยสร้างไทย ก็คือทางออก และทางรอดของประเทศไทยและก็เชิญชวนชาวหนองบัวลำภู มาร่วมเป็นทางเลือกให้ผู้สมัครของพรรคทั้ง 3 คน 3 เขต หนุนคุณหญิงสุดารัตน์ฯนั่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนอีสาน เพื่อชัยชนะไปด้วยกัน
นายวิชัยฯกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เพื่อขอโอกาสร่วมกันมาเปลี่ยนแปลงจากพรรคเดิมที่พี่น้องประชาชนเคยปลูกฝัง เคยยึดติด มาร่วมกันเปลี่ยนเป็นไทยสร้างไทย ที่มีผู้นำพรรคที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมานกว่า 30 ปี พร้อมที่จะนำพาประเทศชาติบ้านเมืองก้าวให้พ้นความขัดแย้ง และจากการลงพื้นที่ได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องคือ บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาทเพราะทุกคนเกิดมาอายุ 60 ปี ก็ยังอยู่อย่างอัตคัดขัดสน การใช้จ่ายไม่เพียงพอ ทำให้ผู้สูงอายุสามารถที่ยืนอยู่ได้ด้วยลำพัง ลูกหลาน ไปทำงานก็ไม่ต้องเป็นห่วง
นายวิชัยฯกล่าวต่อว่าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาอดีตแต่ก่อนตัวเองเคยอยู่พรรค ไทยรักไทย และเพื่อไทย แต่ย้ายมาสังกัดพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งในการลงสมัครรับเลือกตั้งทุกครั้งก็รู้สึกหนักใจ ไม่ว่าจะลงสมัครอะไรก็ตามคือทุกคนคือคู่แข่ง และโดยเฉพาะนักการเมืองใหญ่มีพรรคการเมืองหนุน การที่พี่น้องประชาชนจะตัดสินใจเลือกนั้น พรรคก็มีผล ต่อคะแนนผู้สมัครแต่ละเขต แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพรรคไทยสร้างไทย จะเป็นพรรคใหม่ เราก็ไม่ย่อท้อ พยายามที่จะอธิบาย จะขยายความ มาวันนี้มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนเข้าใจ น่าจะสามารถเปลี่ยนความรู้สึกที่ปลูกฝัง ยึดมั่น ติดมั่น กับความรู้สึก เดิมๆมาเป็น ไทยสร้างไทย เพราะทุกคนมองเห็นทางออกและทางรอดของประเทศ เราจะเป็นพรรคสายกลางไม่แบ่งฝ่าย เป็นทางเลือกและทางรอดของประเทศ
