ประชาสัมพันธ์

ผู้ใหญ่บ้านเขตพื้นที่เกิดฟ้าผ่าชาวนาหวิดตายหมู่ เผยอากาศวิปริตฟ้าผ่าชาวนาเสียชีวิตเตือนระวังเหตุซ้ำ

ผู้ใหญ่บ้านเขตพื้นที่เกิดฟ้าผ่าชาวนาหวิดตายหมู่ โดยเสียชีวิต 1 ราย รอดตายปาฏิหาริย์ 4 ราย เผยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี สันนิษฐานเกิดจากภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา พร้อมประกาศเตือนชาวบ้านระมัดระวังอันตรายจากฟ้าผ่า เพื่อป้องกันการเกิดเหตุและสูญเสียชีวิตซ้ำ

จากกรณีเกิดเหตุระทึกสุดเหลือเชื่อ ฟ้าผ่าลงกลางกระท่อมนา ขณะที่ชาวนา 5 คน เข้าไปนั่งหลบฝนภายในกระท่อมมุงสังกะสีใต้ร่มยูคาลิปตัส ผู้ประสบเหตุหมดสติ 1 ราย ขณะที่อีก 4 รายปลอดภัยราวปาฏิหาริย์  หลังตั้งสติได้รีบนำร่างคนหมดสติขึ้นรถฝ่าสายฝนออกมาจากกลางทุ่ง ส่งโรงพยาบาลให้หมอยื้อชีวิต สุดท้ายผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน  2563 เวลา 14.00 น. นายวัฒนา  ภูมิ่งดาว ผู้ใหญ่บ้านดอนกลาง หมู่ 8 ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งพื้นที่รอยต่อกับบ้านหนองแคน ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม จุดที่เกิดเหตุฟ้าผ่า ให้ข้อมูลว่า สำหรับเหตุฟ้าผ่าในพื้นที่ละแวกนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นมานานมาก ซึ่งจำไม่ได้ว่ากี่สิบปีแล้ว เพราะตนเองไม่ได้รับแจ้งเหตุ  และไม่มีประสบการณ์อยู่ใกล้หรือเห็นฟ้าผ่า ส่วนใหญ่จะทราบข่าวจากพื้นที่อื่น เช่น ฟ้าผ่าสัตว์เลี้ยงบ้าง ฟ้าผ่าต้นไม้บ้าง นานทีถึงจะได้ยินข่าวว่าฟ้าผ่าคนเสียชีวิต

นายวัฒนา กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเกิดฟ้าผ่าครั้งนี้  ซึ่งฟ้าได้ผ่าลงมากลางกระท่อมนาที่นายสำรวย หวานเอี่ยม อายุ 57 ปี ชาวบ้านหนองแคน ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เมื่อวานนี้ เวลา 11.00 น. ขณะเข้าไปหลบฝนกับลูกชายและญาติรวม 5 คน ก่อนที่นายสำรวยจะถูกฟ้าผ่าจนอาการสาหัส โดยหมดสติในที่เกิดเหตุและต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนั้น นับเป็นเหตุฟ้าผ่าครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่อยู่ในละแวกนี้ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าสาเหตุมาจากภัยธรรมชาติ  แต่เป็นที่เรื่องที่น่าแปลกมาก ที่เกิดเหตุฟ้าผ่าในช่วงเช้า  เพราะตามที่ทราบมาการเกิดฟ้าผ่าส่วนมาก จะเกิดในช่วงพายุฤดูร้อน  และเป็นในช่วงเวลาบ่ายถึงค่ำมากกว่า  กรณีการเกิดฟ้าผ่าในช่วงเวลาเช้าดังกล่าว  จึงบ่งบอกว่าสภาพอากาศปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป  และฟ้าอาจจะผ่าลงมาได้ทุกช่วงเวลา

นายวัฒนา กล่าวอีกเพิ่มเติมว่า เหตุฟ้าผ่าจึงเป็นภัยธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ที่สำคัญชาวบ้านจึงควรระมัดระวัง หาทางป้องกันตนเองเพื่อให้ปลอดภัยจากเหตุฟ้าผ่า  โดยในช่วงที่ฝนตก ฟ้าคะนอง ต้องไม่ออกไปอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือหาที่หลบในที่ปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่ร่มไม้ใหญ่  ไม่อยู่ใกล้วัตถุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น มือถือ วิทยุ จอบ เสียม มีด อย่างไรก็ตาม ก็จะได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น  เพื่อป้องกันเหตุฟ้าผ่าเกิดขึ้นซ้ำ ซึ่งอาจจะทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากสภาพอากาศในปัจจุบันวิปริตรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมา