ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 14 ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเกษตรและอุปโภค บริโภค โครงการแก้มลิงบ่อโจ้โก้พร้อมระบบส่งน้ำปริมาณเก็บกัก 1.50 ล้านลูกบาศก์เมตร ตำบลศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งใช้งบประมาณดำเนินการก่อสร้าง จำนวน 50 ล้านบาท
วันที่ 2 มิ.ย. 2566 เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทัศพันธ์ พงษ์เภตรา ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 14 ในฐานะประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดยโสธร พร้อมคณะลงพื้นที่สอดส่องติดตามความคืบหน้าโครงการเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ แก้มลิงบ่อโจ้โก้พร้อมระบบส่งน้ำ ปริมาณเก็บกัก 1.50 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่บ้านศรีฐาน ตำบลศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร หน่วยงานรับผิดชอบคือโครงการชลประทานยโสธร หลังจากที่ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง จำนวน 50 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นแห่งเก็บกักน้ำต้นทุน สำหรับพื้นที่เพาะปลูก ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายกายพฤกษ์ รัตนานิคม หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 ให้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการฯ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปบางส่วนแล้ว แยกเป็นลักษณะเป็นงานจ้างเหมาประกอบด้วยลานกิจกรรม จำนวน 1 แห่ง กิจกรรมคันดิน กิจกรรมขุดลอกบ่อโจ้โก้ จำนวน 358,653 ลูกบาศก์เมตร และงานดำเนินการเอง ประกอบด้วย กิจกรรมอาคารรับน้ำ ขนาด 3.50 X 3.50 เมตร จำนวน 4 ช่อง กิจกรรมท่อรับน้ำ จำนวน 4 แห่ง และกิจกรรมร่องรับน้ำ โดยงานขุดลอกจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2566 นี้ ซึ่งถ้าดำเนินการเสร็จทั้งโครงการฯจะสามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในฤดูฝน ประมาณ 3,600 ไร่ และฤดูแล้ง ประมาณ 850 ไร่ ช่วยเหลือพื้นที่อุปโภค-บริโภค ของราษฎรในพื้นที่ จำนวน 1,839 ครัวเรือน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนอีกด้วย
ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 14 กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดที่ประชากรส่วนใหญ่ทำการเกษตร เมื่อถึงหน้าแล้งก็จะไม่มีน้ำในการทำการเกษตร และอุปโภคบริโภค ในขณะที่ช่วงฤดูฝนก็จะเกิดน้ำท่วม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำ ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีน้ำอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร ซึ่งหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถเก็บกักน้ำได้ 1.5 0 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อตรวจติดตาม และสอดส่องดูแลการดำเนินงานโครงการฯ ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการ ความคืบหน้าของการดำเนินโครงการ รวมถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ และได้กำชับให้เร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผน /เร่งรัดให้จัดทำป้ายโครงการ และการบริหารจัดการโครงการหลังเสร็จสิ้นโครงการ รวมทั้งการจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องมีการปรึกษาหารือกันระหว่างชุมชนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นต้น
จากนั้น เป็นประธานประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดยโสธร ครั้งที่1/2566 เพื่อติดตามผลการสอดส่องแผนงานโครงการฯ พร้อมทั้งรับทราบ รายงานปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ และพิจารณาแต่งตั้งรองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดยโสธร แทนตำแหน่งที่ว่าง เพื่อให้เป็นไปตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีต่อไป