ข่าวสังคม

จังหวัดกาฬสินธุ์ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม ประกาศยกระดับมาจาก 6 จังหวัดแดงเข้มต้องกักตัว

สถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ล่าสุดยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 71 ราย เสียชีวิต 1 รายเท่าเดิม และหายป่วยแล้วทั้งหมด 22 ราย  ด้านผวจ.กาฬสินธุ์ออกคำสั่งผู้ที่เดินมาจาก 6 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดต้องฉีดวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม มีใบรับรองผลการตรวจ และหากไม่มีต้องกักตัว 14 วัน ส่วนพื้นที่อื่นรายงานตัวจากต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมกำชับทุกภาคส่วนการ์ดอย่าตกสวมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย 100 % เมื่อออกจากเคหสถาน

                เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีนายเลิศบุศย์ กองทอง รองผวจ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ พ.อ.เรืองพงษ์ วงศรีสุข รองผอ.รมน.กาฬสินธุ์ นายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ นพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นพ.พรพัฒน์ ภูนากลม รองนายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ช่วยกันปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ โดยการตรวจคัดกรองเชิงรุกทั้งเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการเป็นอย่างดี ทำให้ล่าสุดวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ โดยยังคงมีผู้ป่วยสะสม 71 รายเท่าเดิม และหายป่วยวันนี้ 3 ราย รวมหายป่วยแล้วทั้งหมด 22 ราย กำลังรักษา 48 ราย เสียชีวิต 1 ราย

นายทรงพลกล่าวต่อว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 แม้ล่าสุดวันนี้พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์จะไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ไว้วางใจไม่ได้ เนื่องจากลักษณะการแพร่ระบาดจะเป็นกลุ่มก้อน ในวงจำกัดที่มาจากการสัมผัสใกล้ชิดในครอบครัว กลุ่มเพื่อน กิจกรรมกลุ่มพบปะในชุมชน และการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ดังนั้นเพื่อเป็นการยกระดับการป้องกันการระบาดของโรค การกักกันตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง จึงเป็นวิธีการสำคัญ  มติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้ออกคำสั่ง จ.กาฬสินธุ์ เรื่อง การกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้มหรือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จ.ชลบุรี จ.เชียงใหม่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี และ จ.สมุทรปราการ ที่มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลตรวจไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ซึ่งหากไม่มีผลตรวจต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ และหากผลตรวจพบติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพื้นที่ใกล้ที่สุดทันที ทั้งนี้หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและไม่มีผลการตรวจ จะต้องกักตัว 14 วัน และรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือ อสม.พร้อมดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นหมอชนะ

ในส่วนผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นเข้าพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน ผู้มีประวัติไปยังสถานที่พบผู้ป่วย ผู้ที่ประกอบอาชีพเสี่ยง เช่นผู้ประกอบการพนักงานสถานบริการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ที่แสดงคอนเสิร์ต ผับ บาร์ คาราโอเกะ ผู้ค้าขายในตลาด ขอให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรืออสม. ทุกครั้ง เพื่อคักกรองและประเมินความเสี่ยง

นายทรงพล กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกคนการ์ดอย่าตก ให้ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด  โดยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร ไม่เข้าไปในสถานที่แออัดอากาศไม่ถ่ายเท ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สแกนไทยชนะหรือหมอชนะ