ข่าวสังคม

เกิดพายุฝนลมพัดแรง ถล่มบ้านเรือนในอำเภอเขาวงเสียหายยับเร่งให้การช่วยเหลือ

เกิดพายุฝนลมพัดแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในอำเภอเขาวง ซึ่งอยู่ติดเทือกเขาภูพาน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายหลายหลังคาเรือน ขณะที่นายกเทศมนตรีตำบลกุดสิม ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมเร่งให้การช่วยเหลือและจัดหาที่พักอาศัยเป็นการเบื้องต้น

                เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 5 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดพายุฝนตกหนักและลมพัดแรงในหลายพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ หลังจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทุกพื้นที่มีสภาพอากาศที่ที่ร้อนอบอ้าว โดยแรงลมพายุทำให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเทศบาลตำบลกุดสิม อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาภูพาน แรงลมของพายุได้พัดเอาหลังคาบ้านของประชาชนหลุดปลิวออกไปเสียหายหลายหลังคาเรือน

                โดยล่าสุดนางสาววิภาวี บุญเรือง นายกเทศมนตรีตำบลกุดสิม อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศมนตรีตำบลกุดสิม ฝ่ายปกครองอำเภอเขาวง และผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมกันลงพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหาย เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนถูกแรงลมพัดเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน บางหลังแรงลมได้พัดเอาหลังคาบ้านหลุดออกไปทั้งหลัง นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ล้มทับรั่วกำแพงวัด และล้มกีดขวางเส้นทางอีกด้วย โดยนายกเทศมนตรีตำบลกุดสิม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งจัดเตรียมสถานที่พักอาศัยเป็นการชั่วคราวบ้านหลังที่เสียหายหนัก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมทั้งนำอุปกรณ์เข้าตัดต้นไม้ที่ล้ม และเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อที่จะได้นำสิ่งของเครื่องอุปโรค บริโภคเข้าให้การช่วยเบื้องต้น และรายงานไปยังอำเภอและจังหวัดเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

                จากการสอบถามนางโอกาส เเสนขาว อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่36/1หมู่ที่ 2 ต.กุดสิมคุ้มใหม่ เล่าว่า ก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์มีอากาศร้อนและอบอ้าว กระทั่งเมื่อช่วงเย็น ท้องฟ้ามีสีแดง ก่อนจะเปลี่ยนมืดครึม จากนั้นก็มีลมพัดแรงเข้ามา และมีฝนตก จึงส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนพังเสียหายจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งเกิดมาไม่เคยเจอพายุในลักษณะนี้มาก่อนเลย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

                ขณะที่นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ทุกอำเภอที่เกิดพายุประสานงานกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสาขากุฉินารายณ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และเร่งให้การช่วยเหลือ พร้อมกับให้รายงานเข้ามา เพื่อที่จะดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป