ข่าวสังคม

กาฬสินธุ์-ท่องเที่ยว “ฮักกาฬสินธุ์” นวัตวิถีของดีบ้านฉันโต้ลมหนาว

จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ ยกระดับหมู่บ้านท่องเที่ยว “ฮักกาฬสินธุ์” นวัตวิถีของดีบ้านฉัน เปิดโปรแกรมท่องเที่ยวโต้ลมหนาว 18 อำเภอ 4 จุดเช็คอิน เพื่อส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน และประชาสัมพันธ์หมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว ให้ชุมชนมีรายได้และฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 ที่จะเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาล

นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาภาคการผลิตและการบริการ ให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ประชาชนมีคุณภาพชีวิต และมีรายได้ที่ดีขึ้น และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ ซึ่งมีแนวทางเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขัน ในเชิงธุรกิจของภาคบริการ โดยสอดคล้องกับนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ มุ่งเน้นการสร้างโอกาส อาชีพและการมีรายได้ที่มั่นคง โดยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ให้เกิดความเข้มแข็ง ด้วยการใช้ความหลากหลายและอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ทั้งด้านสินค้า บริการ และสภาพพื้นที่ มาสร้างมูลค่าและความคุ้มค่า ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน โดยยึดโยงกับแผนพัฒนาการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใต้การบูรณาการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งชุมชน จังหวัด และภาค

นายอุทัยกล่าวอีกว่า การเพิ่มโอกาสในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน จำเป็นต้องดำเนินการพัฒนาเชิงพื้นที่ให้ชุมชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน ในการพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ในชุมชน ด้วยการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวในแต่ละท้องถิ่นตามแผนพัฒนาจังหวัด กลุ่มจังหวัด โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์สำคัญของกลุ่มจังหวัด เช่น ผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากไหม และฝ้าย ผลิตภัณฑ์ชุมชน ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การพัฒนา ได้กำหนดกรอบการพัฒนา ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ มีการส่งเสริมเทคโนโลยีที่ทันสมัย การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ การพัฒนาผู้ผลิต ผู้ประกอบการชุมชนให้มีขีดความสามารถ และพัฒนาช่องทางตลาดที่หลากหลาย ทั้งภายในและภายนอกพื้นที่ เพื่อให้ขายได้ มุ่งปรับตัวสู่การค้าแบบสากล ควบคู่กับการท่องเที่ยวชุมชน และเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเมืองหลัก เมืองรอง โดยมุ่งหวังผลกระทบเชิงบวกด้านการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวที่จะตามมาในอนาคต

“เพื่อให้เศรษฐกิจฐานราก มีความเข้มแข็งและยั่งยืน เป็นการสร้างแรงดึงดูดให้มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการ โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมาตรฐานสากล พัฒนาผู้ผลิตผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขัน เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน เช่น การจัดโครงการการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มาตรฐาน การยกระดับหมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว โดยในปี 2561 ได้จัดนิทรรศการแนะนำของดีหมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว “ฮักกาฬสินธุ์” ชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีของดีบ้านฉัน ครั้งที่ 1 และกำหนดจัดเป็นครั้งที่ 2 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ 18 อำเภอ กำหนดจัด 4 จุดใหญ่ด้วยกัน เพื่อเป็นการรวบรวมและรวบยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน จากหมู่บ้านท่องเที่ยวนวัตวิถีของดีบ้านฉัน มาเป็นจุดเช็คอินท่องเที่ยวโต้ลมหนาวต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

นายอุทัยกล่าวเพิ่มเติมว่า โดยในช่วงกลางเดือน ธ.ค.64 ถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ม.ค.65 จ.กาฬสินธุ์ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ จัดโครงการภายใต้แผนปฏิบัติราชการประจำปี 64 ของกลุ่มจังหวัด เพื่อพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มาตรฐาน โดยการยกระดับหมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว มีการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวและนิทรรศการแนะนำของดีจากหมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว ภายใต้ชื่องาน “ฮักกาฬสินธุ์#2 ชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีของดีบ้านฉัน” กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมเป็นหมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยวใน จ.กาฬสินธุ์จำนวน 67 หมู่บ้าน กำหนดดำเนินการ 4 ครั้ง

“ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค.64 ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติกาสินธุ์ บ้านหัวแฮด ต.ธัญญา อ.กมลาไสย มี 21 หมู่บ้านเข้าร่วมกิจกรรม, ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 16-18 ธ.ค.64 ที่หน้าที่ว่าการอำเภอดอนจาน มี 24 หมู่บ้านเข้าร่วมกิจกรรม, ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 5-7 ม.ค.65 ที่สนามหน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ (หลังเก่า) มี 67 หมู่บ้านร่วมกิจกรรม และครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 8-10 ม.ค. 65 ที่สหกรณ์ศูนย์ศิลปาชีพทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง มี 22 หมู่บ้านร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ ถือเป็นการจัดนิทรรศการโปรแกรมท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน และประชาสัมพันธ์หมู่บ้านโอทอป เพื่อการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปได้รู้จัก ทำให้คนในชุมชนมีรายได้จากนักท่องเที่ยว และฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 ที่จะเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาล” นายอุทัยกล่าว