ข่าวสังคม

สมาคมผู้พิการฯร่วมกับธนาคารบุญฯ มอบวีลแชร์สามล้อช่วยเหลือผู้พิการ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล  และธนาคารบุญเกื้อกูลผู้ด้อยโอกาสตำบลนิคม และวัดเวฬุวัน  ร่วมมอบรถวีลแชร์ รถสามล้อโยก 30 คน มูลค่ากว่า 180,000 บาท ให้กับคนพิการในตำบลนิคม อำเภอสหัสขันธ์  จังหวัดกาฬสินธุ์

ที่อาคารปฏิบัติธรรม  วัดเวฬุวัน  ตำบลนิคม  อำเภอสหัสขันธ์  จังหวัดกาฬสินธุ์  พระครูสิทธิวราคม ดร. เจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ (ธ.) เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน  เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการมอบรถให้กับคนพิการ  ตามโครงการมอบรถวิลแชร์ และรถสามล้อโยก ให้คนพิการ   จำนวน 30 คน  โดยมีนางสาวแววตา  นระทัด  นายอำเภอสหัสขันธ์  เป็นประธานมอบ โดย พ.ต.ศิริชัย ทรัพย์ศิริ  ตัวแทนสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล  ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและอำเภอ  เทศบาลตำบลนิคม  คณะกรรมการธนาคารบุญเกื้อกูลผู้ด้อยโอกาส และญาติธรรมวัดเวฬุวัน ร่วมกิจกรรมภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19

พระครูสิทธิวราดม ดร. เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน กล่าวว่า  ทางวัดได้ร่วมกับชุมชนและเทศบาลในการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นการช่วยเหลือแบบเอื้อเฟื้อตามสถานการณ์   สำหรับการมอบรถวีลแชร์และรถสามล้อคันโยก 30 คัน  แยกเป็นวีลแชร์ 15 คัน และรถสามล้อคันโยก 15 คัน ซึ่งรวมมูลค่ากว่า 180,000 บาท  เป็นการช่วยเหลือคนพิการให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างสมบูรณ์  ซึ่งคนพิการที่รับมอบรถครั้งนี้ทุกคนดีใจอย่างมาก  เพราะรถที่ได้รับเป็นรถสำหรับคนพิการที่มีคุณภาพ  สามารถช่วยเหลือคนพิการในการเดินทางใกล้และไกลได้ดียิ่งขึ้น  นอกจากนี้ทางธนาคารบุญ  ยังได้มอบถุงยังชีพ  และเงินสดหมู่บ้านละ 3,000 บาท ทั้งหมด 7 หมู่บ้านให้กับหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด  ซึ่งเป็นเงินของกองทุนและธนาคารบุญฯที่เกิดจากในชุมชนจัดตั้งขึ้นมานานกว่า 10 ปี

พ.ต.ศิริชัย  ทรัพย์สิริ  จากสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล  กล่าวว่า รถวีลแชร์ และสามล้อคันโยก ได้นำมามอบให้กับผู้พิการที่ผ่านการคัดเลือกในท้องที่ทั้งหมด 30  คัน  โดยทางวัดเวฬุวัน และธนาคารบุญฯ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งรถซึ่งเป็นการบูราณาการร่วมกัน  ระหว่างรัฐ เอกชนและวัด  ทั้งนี้ทางสมาคมฯ ยังตั้งเป้าออกช่วยเหลือคนพิการทั่วประเทศต่อไป  โดยร่วมกับทางภาครัฐ  โดยเฉพาะ อบต. เทศบาล  ที่จะต้องช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อคนพิการตามกฎหมายอย่างเหมาะสม  โดยที่ผ่านมาคนพิการสูญเสียโอกาสและการเข้าถึงการช่วยเหลือทางภาครัฐ  โดยจากนี้ได้มอบหมายให้คณะกรรมการของจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือและดูแล อย่างใกล้ชิดมากขึ้น