ข่าวสังคม

กลัวสามีตายฟรี หญิงพิการแม่เด็กแฝด เหยื่ออาชญากรรม ขอความช่วยเหลือกองทุนยุติธรรม

หญิงพิการทางสติปัญญา วัย 50 ปี มารดาเด็กชายฝาแฝด เหยื่ออาชญากรรม ชาวอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์  เดินสายขอความเป็นธรรมกับกระบวนการยุติธรรมหลายแห่ง หลังสามีถูกคู่อริทำร้ายร่างกายเสียชีวิต แต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา และกลัวว่าสามีจะถูกฆ่าตายฟรี

เมื่อวันที่  26 พฤษภาคม 2563 ที่สำนักงานยุติธรรม ชั้น 4 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นางสาวบุญรบ ขันอาสา อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 4 บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หญิงพิการทางสติปัญญา มารดา ด.ช.ธนพล และ ด.ช.ภัทรพล ภูนาชัย ลูกชายฝาแฝดวัย 14 ปี พร้อมด้วยนายสมนึก นันรัศมี และนางวชิราภรณ์  นันรัศมี ซึ่งเป็นญาติ ได้ขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ เพื่อขอความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม เนื่องจากนายวรเชษฐ์ที่เคยเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวเสียชีวิตไป ขณะที่นางสาวบุญรบซึ่งสติปัญญาไม่ดี กำลังได้รับความเดือดร้อน  ทั้งต้องรับภาระเลี้ยงลูกชายฝาแฝด และจะต้องส่งเสียเรียนหนังสือด้วย

นางวชิราภรณ์  นันรัศมี อายุ  46 ปี บ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายวรเชษฐ์ ภูนาชัย พี่ชายของตน และเป็นสามีนางสาวบุญรบ ถูกคู่อริทำร้ายจนถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 63 ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 18 พฤษภาคม 63 ศาลกาฬสินธุ์ ได้ตัดสินคดีอาญา โดยพิพากษาให้ผู้ต้องหา ที่ลงมือทำร้ายนายวรเชษฐ์เสียชีวิต มีความผิดจำคุก 3 ปี รับสารภาพเหลือติดคุก 1 ปี 6 เดือน อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ทางครอบครัวนางสาวบุญรบ  หญิงพิการทางสติปัญญา ซึ่งเป็นภรรยาผู้เสียหาย และลูกชายฝาแฝด 2 คน ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากจำเลย เนื่องจากยังไม่ได้ฟ้องทางแพ่ง จึงได้เข้าขอคำปรึกษากับอาสายุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ก่อนพากันเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมในวันนี้

ด้านนายสมนึก นันรัศมี อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเป็นน้องเขยของนายวรเชษฐ์ผู้ตาย สงสารนางสาวบุญรบและหลานชายฝาแฝด ที่ฐานะยากจน ทั้งยังเป็นผู้พิการทางสติปัญญา กลัวว่าสามีจะถูกฆ่าตายฟรี โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้เข้าขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ดังกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้ หลังจากทราบผลพิจารณาคดีอาญาจากศาลแล้ว  ได้ไปขอคำปรึกษากับอัยการจังหวัด เพื่อฟ้องทางแพ่ง และเรียกเสียหายหรือเงินเยียวยาจากจำเลย แต่การยื่นฟ้องดังกล่าวตามระเบียบจะต้องว่าจ้างทนายและวางเงินค่าธรรมเนียมศาล แต่เนื่องจากนางสาวบุญรบพิการและฐานะนางสาวบุญรบยากจน  จึงได้มาขอความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมดังกล่าว

ขณะที่นายชุติเดช เสน่ห์วงษ์ เจ้าหน้าที่ยุติธรรม กล่าวว่า หลังได้รับเรื่องแล้ว ได้แนะนำให้ญาตินายวรเชษฐ์ผู้เสียชีวิต ไปขอคัดสำเนาคำพิพากษาของศาลในคดีดังกล่าว เพื่อประกอบสำนวนการขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม ทั้งในส่วนการตั้งทนายยื่นฟ้องทางแพ่งกับฝ่ายจำเลย และสิทธิอื่นๆที่จะได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการยุติธรรมระดับจังหวัดในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม  เบื้องต้นจะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพครอบครัว ถ้าเข้าเกณฑ์ฐานะยากจน ก็จะได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมต่อไป