ข่าวสังคม

นครพนม พบโรงเรียนริมโขง ได้รับผลกระทบจากค่ามลพิษ PM2.5 จนครูสอนพละต้องลาป่วยแล้ว หลังพบว่าค่ามลพิษ PM2.5 พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา 254 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร

วันที่ 15 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนครพนมและนักท่องเที่ยว หลังจากที่หายใจโล่งปอดได้เพียงวันเดียวพบว่า สภาพมลพิษค่า PM2.5 สูงเกินมาตราฐานและได้ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลของแอปพลิเคชั่น Air4thai ซึ่งเป็นแอปสำหรับตรวจวัดคุณภาพของอากาศ แสดงผลตัวเลขคุณภาพทางอากาศ พบว่าเมื่อเวลา 11.00น. ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 วัดขึ้นมาได้ที่ 254ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นค่าระดับแจ้งเตือนสีแดง หมายถึงกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไปและโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งนี้เพิ่มขึ้นจากค่าเดิมของเมื่อวาน (14 มี.ค 2566) ที่ลดลงที่ระดับสีเขียวแล้ว ล่าสุดจากเคยวัดค่าได้ที่ 51 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร กระทั่งดึกของคืนที่ผ่านมากลับดีดตัวมีค่าPM2.5 สูงขึ้นมาสู่ระดับสีแดงอีกครั้ง โดยมีค่าเข้มข้นสูงถึง 139ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์ที่คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพอีกครั้ง ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ(AQI) อ่านค่าได้ 254 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ค่าระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ

โรงเรียนสุนทรวิจิตร เป็นสถานที่ตั้งอยู่ริมถนนสุนทรวิจิตร เลียบแม่น้ำโขงซึ่งคั้นระหว่างจังหวัดนครพนมกับเมืองท่าแขกของแขวงคำม่วน พื้นที่เทศบาลเมืองนครพนม พบว่ามีครูสอนวิชาพละศึกษา รวมถึงบุคคลากรครูผู้สอนและนักเรียนอีกหลายคน ต้องประสบจากมลพิษค่า PM2.5 ที่สูงผิดปกติ มีอาการแสบจมูกน้ำมูกไหลหายใจไม่สะดวก จนต้องหยุดพักรักษาตัวด้วยปัญหาระบบทางเดินหายใจหลายรายแล้ว

คุณครูปรัศดา ปทุมมาสุมทร ครูผู้สอนนักเรียนชั้นประถมปีที่ 5 ได้กล่าวว่า จากปัญหากระทบดังกล่าว ทางโรงเรียนใช้วิธีป้องกันและบรรเทาปัญหาเบื้องต้น โดยวิธีการปิดประตูหน้าต่างห้องเรียนและเปิดไฟฟ้าแสงสว่างขณะทำการสอนให้กับนักเรียนพร้อมทั้งสวมหน้ากากป้องกันตลอดเวลา ที่นี้ได้เริ่มตั้งแต่ที่ประสบปัญหาหมอกควันมลพิษนี้มาโดยตลอด ขณะเดียวกันทางโรงเรียนจำเป็นต้องเปิดการสอน เนื่องเพราะขณะนี้นักเรียนเองก็ใกล้สอบปลายภาคและปิดเทอมในอีกไม่ช้า จึงต้องใช้วิธีบรรเทาปัญหาจากมลพิษด้วยวิธีดังกล่าว
นอกจากนี้ การติดตามรายงานค่าคุณภาพอากาศจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือหรือแหล่งข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษก่อนเริ่มต้นวันหรือก่อนทำกิจกรรมใด ๆ ยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เราวางแผนการใช้ชีวิตให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศอื่น ๆ อีกด้วย

แม้จะมองไม่เห็นฝุ่น PM 2.5 แต่ฝุ่นชนิดนี้และมลพิษทางอากาศยังอยู่รอบตัวเราในทุกวินาที เราทุกคนจึงควรหาวิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาสุขภาพในระยะสั้นและในระยะยาว หากร่างกายมีอาการผิดปกติในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูงควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมทันที