ข่าวสังคม ข่าวอาชญากรรม

ตำรวจภูธรนครพนม ตรวจยึดยาบ้า ล้านกว่าเม็ด พร้อมผู้ต้องหา

วันที่ 7 เม.ย.66 ที่บริเวณลานหน้ากองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ถ.สุนทรวิจิตร อ.เมือง จ.นครพนม พ.ต.อ.ศุภกิจ ต่อบุญ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม น.อ.กษิดิ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม พ.ต.อ.(ญ) จีรนันท์ ธนะสิงห์ หัวหน้างานพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นครพนม พร้อมกับหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวว่า ได้รับแจ้งว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย.66 จะมีการลักลอบนำยาเสพติด (ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณหน้าวัดพุทธนิมิต ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ก.จว.นครพนมและ พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.กก.สส..ภ.จว.นครพนม สั่งการให้ พ.ต.ท.จิรเดช อัตตพงษ์ สว.กก.ส.ส.ภ.จว.นครพนม ร่วมปฏิบัติการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำนครพนม ซึ่งได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดซึ่งลักลอบลำเสียงมาจากประเทศลาว จากนั้นนำมาซุกซ่อนไว้บริเวณริมถนน สายนครพนมท่าอุเทน บริเวณหน้าวัดพุทธนิมิต ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางกำลังดักชุ่มดูอยู่บริเวณตามที่สายลับแจ้งมา จนเมื่อเวลา 10.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นรถกระบะ(ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน บจ.2238 นครพนม) มาจอดอยู่บริเวณหน้าวัดพุทธนิมิต ม.1 บ้านเวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยรถยนต์คันดังกล่าวได้เคลื่อนตัวมาบริเวณริมทางและมีชายลงจากรถ ได้แบกกระสอบปุ๋ยขึ้นจากริมทางและโยนใส่กระบะ เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักซุ่มสังเกตอยู่ เข้าแสดงตัวต่อ ท้าวอ้วนฯ เป็นราษฎรชาวลาว และได้ตรวจสอบสิ่งของท้ายกระบะ เป็นกระสอบปุ๋ย จำนวน 6 กระสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดดูกระสอบ พบกล่อง สีน้ำตาล ภายในบรรจุห่อสี่เหลี่ยมหุ้มด้วยกระดาษไข เมื่อเปิดดูพบเป็นยาบ้า เจ้าหน้าที่ฯ จึงควบคุมตัวนายอ้วนฯ โดยให้การว่า ท้าวบัว ราษฎรชาวลาว ใช้ให้มาเอายาบ้านไปไว้ที่ ท่าทรายร้าง ม.2 บ้านยางนกเหาะ ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ต่อมาได้มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า แคป สีดำ ทะเบียน บธ 4059 นครพนม (ทราบทะเบียนภายหลัง) ขับขี่มาตาม ถ.นครพนม – ท่าอุเทน ท้าวอ้วน จึงได้แจ้งกับ ร.ต.อ.บพิตรฯ ว่าเป็นรถของท้าวบัวพาฯ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตัวและหยุดรถคันดังกล่าว เพื่อรอให้บุคคลที่ท้าวด่องฯ ราษฎรชาวลาว ลงจากรถยนต์ จากการสอบสวนถามท้าวบัวพาฯ ยอมรับว่าตนได้ใช้ท้าวอ้วนฯ มารับยาบ้า เพื่อรอให้บุคคลที่ท้าวด่องฯ จ้างวานให้นำยาบ้าไปส่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้วางแผนขยายผลจับกุม หาท้าวบัวพาฯ ได้ซักถามว่า นำยาบ้ามาเก็บไว้ตามที่แจ้งแล้วหรือไม่ ต่อมา ท้าวด่องฯ ได้วีดีโอคอล หาท้าวบัวพาฯ ได้ซักถามว่า นำยาบ้ามาเก็บไว้ตามที่แจ้งแล้วหรือไม่ แล้วได้ขอดูยาบ้าอยู่บริเวณท้ายกระบะรถยนต์ ท้าวด่องฯ จึงได้นัดแนะว่า เวลา 14.00 น. จะมีบุคคลมารับยาบ้าจากท้าวบัวพาฯ เวลาประมาณ 14.10 น. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น แอคคอร์ด สีดำ (สวมทะเบียนปลอม 3 กก 2752 กทม.) ขับเข้ามายังท่าทรายดังกล่าว จากนั้นมีชายคนขับรถยนต์เก๋ง คันดังกล่าว ได้มาเปิดกระโปรงหลัง ได้ยกกระสอบปุ๋ย ซึ่งภายในบรรจุ ยาบ้านำไปใส่ท้ายรถของตน มีเจ้าหน้าที่ฯ ดักซุ่มดูอยู่ เห็นดังนั้นจึงได้แสดงตัวจับกุมชายคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายอุดมสินฯ มีอาชีพ รับจ้างทั่วไป ซึ่งขับรถมากับภรรยา คือ นางสาวเจนจิราฯ ซึ่งเป็นชาว จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ฯ จึงนำตัวบุคคลทั้ง 2 คน มาเปิดดูสิ่งของที่อยู่ภายในกระสอบปุ๋ย คือ ยาบ้า จากการสอบถามทั้ง 2 คน ยอมรับว่า ตนได้มารับยาบ้าจริง โดยได้รับจ้าง 400,000 บาท ทำมาแล้วประมาณ 2-3 ครั้ง จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 4 คน คือ ท้าวอ้วนฯ ท้าวบัวพาฯ ราษฎรชาวลาว และนายอุดมสินฯ นางสาวเจนจิราฯ ชาวอุดรธานี มาสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้งที่ กก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม จากการตรวจสอบของกลางเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 1,012,000 เม็ด มีมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ได้ทำการบันทึกการจับกุม พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป