ข่าวสังคม

สุดเวทนายายวัย 72 อยู่กับหลานในบ้านโทรมพังฝนตกมีน้ำขังยังชีพด้วยเบี้ยคนชรา

สุดเวทนายายวัย 72 ชาวบุรีรัมย์ ป่วยความดันเบาหวานและโรคหอบ อาศัยอยู่กับหลานสาว 11 ขวบ ในบ้านที่ล้อมด้วยสังกะสีเก่าผุพังเป็นรูรอบหน้าฝนมีน้ำขัง ต้องนอนบนเตียงที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ มีเพียงเบี้ยคนชราและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อประทังชีวิตบางวันกินข้าวกับพริกผงผสมน้ำปลา เบี้ยคนชราเก็บไว้ให้หลานไป ร.ร. วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือให้มีที่อยู่อาศัยปลอดภัยไม่ให้น้ำขัง

วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านสารภี ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่า ได้มีหญิงสูงอายุคนหนึ่งป่วยโรคประจำตัวหลายโรค อาศัยอยู่กับหลานสาววัย 11 ขวบ ในบ้านที่ทรุดโทรมฝาผนังล้อมด้วยสังกะสีเก่าผุพัง หน้าฝนน้ำไหลเข้าบ้าน ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากและเสี่ยงอันตรายจากสัตว์มีพิษ

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน เมื่อไปถึงก็พบ น.ส.กวน เหมหงษ์ หรือยายกวน อายุ 72 ปี อาศัยอยู่ในบ้านที่มีสภาพทรุดโทรมฝาผนังล้อมด้วยสังกะสีเก่าผุพังเป็นรูเกือบทั้งหลัง ได้อาศัยอยู่กับ ด.ญ.ประภาเพชร อายุ 11 ปี หลานสาวซึ่งปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ป.6 คุณยายกวน ได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูรอบบ้านทั้งด้านในและด้านนอก รวมถึงห้องน้ำ ซึ่งทั้งหลังคาและฝาผนังทำจากสังกะสีเก่าทั้งหมด ภายในบ้านไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก พื้นเป็นดินทั้งหมด มีเตียงไม้ 1 เตียงสำหรับไว้เป็นที่นอนเท่านั้น ส่วนอาหารก็มีข้าวสารที่เพื่อนบ้านเวทนาสงสารเอามาบริจาคให้ ส่วนไข่ไก่ พริกน้ำปลา สบู่ ยาสระผม และผงซักฟอก ก็เอาเงินจากเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท และเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกเดือนละ 300 บาท ซื้อกินประทังชีวิต 2 ยายหลาน แต่บางวันยายก็ต้องกินข้าวกับพริกผงผสมน้ำปลา เพื่อเก็บเงินไว้ให้หลานไปโรงเรียนและได้กินอาหารอิ่มๆ

ยายกวน บอกว่า เมื่อประมาณ 10 ปีก่อนที่ยังมีเรี่ยวแรง และสามียังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ได้ลำบากเท่าทุกวันนี้ แต่พอสามีเสียชีวิตตนเองก็แก่ชรา แถมยังป่วยอีกหลายโรคทั้งความดัน เบาหวาน และหอบหืด ต้องไปหาหมอกินยาเป็นประจำทำให้ไม่สามารถทำงานได้ ทุกวันนี้ก็อาศัยเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และบัตรสวัสดิการรวมกันเดือนละ 1,000 บาท ใช้สำหรับประทังชีวิต 2 ยายหลาน ส่วนลูกบุญธรรมเขาก็สามีไปทำงานรับจ้างที่ต่างจังหวัด ก็ไม่ค่อยจะมีงานส่งเงินมาให้เฉลี่ยเดือนละ 500 – 1,000 บาท ตนก็เก็บไว้ซื้อข้าวและกับข้าว และให้หลานไปโรงเรียนก็ใช้จ่ายอย่างประหยัด แต่สิ่งที่อยากให้ช่วยเหลือคือสภาพความเป็นอยู่ของบ้าน เพราะหน้าร้อนแทบอยู่ในบ้านไม่ได้เพราะเป็นสังกะสีทั้งหลัง ส่วนหน้าฝนน้ำก็ไหลเข้าบ้าน ก็พาหลานนอนบนเตียงที่ล้อมไปด้วยน้ำขังเสี่ยงอันตรายกับสัตว์มีพิษทั้งงูตะขาบ อยู่ด้วยความลำบากมากกว่า 10 ปีแล้ว ทำอะไรไม่ได้เพราะฐานะยากจนก็ได้แค่กอดหลานร้องไห้ จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐหรือผู้ใจบุญช่วยเหลือซ่อมสร้างบ้านให้ไม่ให้ฝนรั่วหรือน้ำขังและปลอดภัยจากสัตว์มีพิษ

จากการสอบถาม น.ส.จันทร์ อาญาเมือง อสม.บ้านสารภี บอกว่า เมื่อก่อนที่สามีคุณยายยังอยู่ก็ไม่ได้ลำบากเหมือนทุกวันนี้ ยังพอทำงานหาเงินจุนเจือครอบครัวได้ ส่วนลูกบุญธรรมก็ไปร่อนเร่ทำงานรับจ้างต่างจังหวัด นานจะส่งเงินมาให้ครั้งละ 500 – 1,000 บาท ชาวบ้านที่สงสารจึงเอาข้าวสารแบ่งปันยายหลานไว้กินบ้าง แต่สิ่งที่อยากให้ช่วยคือที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะหน้าฝนน้ำไหลเข้ายายกับหลานต้องใช้ชีวิตต้องความลำบาก บางครั้งก็มีงูเข้าบ้าน ที่ผ่านมาทางผู้ใหญ่บ้านก็เคยยื่นเรื่องไปทางองค์กรปกครองส่วนท้องในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัย แต่ก็เห็นเงียบไปไม่รู้ว่าติดขัดที่ขั้นตอนไหน จึงอยากให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือสองยายหลานด้วย ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัยและอาหารการกินให้มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้

หากใครอยากช่วยเหลือสองยายหลาน สามารถบริจาคได้ที่ เลขที่บัญชี 020180583385 ชื่อบัญชีนางสาวกวน เหมหงษ์ บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก ธนาคารออมสิน สาขาบุรีรัมย์ หรือติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0647702534 อสม.