ข่าวกีฬา

กีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินหน้าโครงการสปอร์ตคอมเพล็กซ์ศูนย์พัฒนากีฬาสู่สากล

คณะกรรมการกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ หนุนการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดินหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์พัฒนากีฬาหรือสปอร์ตคอมเพล็กซ์ เพื่อพัฒนากีฬาสู่สากล ที่บริเวณบึงอร่าม อำเภอยางตลาด หลังผลสัมฤทธิ์ด้านการกีฬาทุกประเภท อยู่ลำดับท้ายในการแข่งขันระดับภูมิภาค พร้อมเล็งจัดรายการมวยไทยเฟสติวัล “ศึกเมืองน้ำดำประกอบกิจกรรมการแสดงดนตรีและเทศกาลอาหาร” ปลุกชีพศิลปะแม่ไม้มวยไทยในการต่อสู้ป้องกันตัว สร้างแรงจูงใจเยาวชนสนใจกีฬา และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

ที่ห้องประชุมดอกพะยอม ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 2 นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกีฬา จ.กาฬสินธุ์ ครั้งที่ 1/2565 โดยมีนายพิพัฒน์ วิชัยรัมย์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการกีฬา จ.กาฬสินธุ์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการกีฬา จ.กาฬสินธุ์ ครั้งที่ 1/2565 ครั้งนี้ เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของการนำนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมการแข่งขันในรายการต่างๆ ทั้งระดับเขต ระดับภูมิภาค และโครงการอื่นๆ ที่จะดำเนินการในลำดับต่อไปเช่น โครงการก่อสร้างศูนย์พัฒนากีฬาหรือสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ที่บริเวณบึงอร่าม ต.บึงอร่าม อ.ยางตลาด, โครงการชกมวยไทยเฟสติวัล รายการศึกเมืองน้ำดำประกอบกิจกรรมการแสดงดนตรีและเทศกาลอาหาร, นำนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 พัทลุงเกมส์, กิจกรรมเดินวิ่งกินลมชมเขื่อนลำปาว, การก่อสร้างอาคารสำนักงาน กกท.หลังใหม่, การขออนุมัติหลักการใช้จ่ายเงินคงเหลือ และเงินช่วยเหลือนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขัน เป็นต้น

ด้านนายพิพัฒน์ วิชัยรัมย์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่ กกท.จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่ง จ.กาฬสินธุ์ ได้ส่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ล่าสุด ครั้งที่ 57 ศรีสะเกษเกมส์ จ.กาฬสินธุ์ ได้ 1 เหรียญทอง จากกีฬาปันจักสีลัต, 2 เหรียญเงิน จากกีฬาปันจักสีสัตและยูโด, 6 เหรียญทองแดง จากกีฬาปันจักสีสัต เทควนโด ยูโด เอ็กซ์ตรีม และหมากล้อม อยู่ในอันดับ 67 ของประเทศไทย และอันดับ 18 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ยังผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทนภาค 3 เข้าร่วมแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 37 พัทลุงเกมส์ 10 ชนิดกีฬา ระหว่างวันที่ 29 ก.ค.-10 ส.ค.65 รวมทั้งจะได้ส่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการคัดเลือกร่วมแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 4  “เสกักเกมส์”  5 ชนิดกีฬา ระหว่างวันที่ 21-27 ส.ค. ที่ จ.พัทลุงอีกด้วย

นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการต่อไปที่กำหนดจัดประมาณเดือน ก.ย.65 นี้คือโครงการชกมวยไทยเฟสติวัล รายการศึกเมืองน้ำดำประกอบกิจกรรมการแสดงดนตรีและเทศกาลอาหาร ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ (หลังเก่า) เพื่ออนุรักษ์ศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย กระตุ้นแรงจูงใจให้ประชาชน เยาวชนออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวใน จ.กาฬสินธุ์ กิจกรรมประกอบด้วยการแข่งขันกีฬามวยไทยกับดนตรีของศิลปินท้องถิ่นและศิลปินมีชื่อเสียง, การผสมผสานการแข่งขันกีฬามวยกับเทศกาลอาหารและสินค้าโอทอป, การเปิดเวิร์คช็อปให้มีการทดลองเรียนมวยไทยจากค่ายมวยในท้องถิ่น เพื่อดึงดูดความสนใจเด็ก เยาวชน ในศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม จากผลสัมฤทธิ์ของนักกีฬาประเภทต่างๆของ จ.กาฬสินธุ์ที่ผ่านมา ยังอยู่ในอันดับท้ายๆตารางการแข่งขัน คณะกรรมการกีฬา จ.กาฬสินธุ์ จึงมีมติสนับหนุนการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดินหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์พัฒนากีฬาหรือสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ที่บริเวณบึงอร่าม อ.ยางตลาด เพื่อพัฒนากีฬาสู่สากลต่อไป หลังจากที่ชะลอการติดตามโครงการไป 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยริเริ่มโครงการมานานถึง 6 ปีแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ระบุปัญหาอยู่ที่การขอใช้พื้นที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และติดขัดในเรื่องการขอใช้พื้นที่จากกรมธนารักษ์และที่ดิน

ทั้งนี้ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว ได้ผ่านขั้นตอนการประชาคมแล้ว คาดว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 100 ไร่ งบประมาณการก่อสร้างประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งจะได้ศูนย์พัฒนากีฬาที่ทันสมัยเทียบเท่าที่ จ.นครราชสีมา จ.สงขลา หรือ จ.สุพรรณบุรี โดยจะประกอบไปด้วยสนามกีฬาฟุตบอล ลู่กรีฑา โรงยิม รวมทั้งอาคารศูนย์บริการสุขภาพที่ครบวงจร ทันสมัย ที่สำคัญคือจะเป็นสถานที่ออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป และสามารถที่จะผลิตนักกีฬาคุณภาพ สร้างชื่อเสียงให้แก่ จ.กาฬสินธุ์ต่อไป