“เคยท้อแต่พอนึกถึงครอบครัวทำให้มีแรงฮึดต่อ” เปิดใจยอดคนสู้ไม่ขอยอมแพ้โชคชะตา หนุ่มพิการเมืองช้างโยกสามล้อจากบ้านไปปากทาง 2 กม. เพื่อมานั่งขายเฟอร์นิเจอร์ซุ้มไม้ไผ่ริมถนนที่ช่วยครอบครัว พี่สาวประกอบเองบางวันขายได้ก็ได้กินบางวันขายไม่ได้ก็อด วอนหน่วยงานและผู้ใจบุญช่วยเหลือเดือดร้อนอยากได้บ้านเพราะที่อยู่ทุกวันนี้หลังคาสังกะสีรั่วไม้ก็เจอปลวกกิน












วันที่ 14 กันยายน 2566 ทีมข่าวได้รับแจ้งจากนายวุธ พรามณี อายุ 44 ปี มีบ้านพักอาศัยเลขที่ 83 หมู่ 15 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ หนุ่มพิการสู้ชีวิต ทุกวันจะโยกสามล้อจากบ้านไปปากทาง 2 กิโลเมตร เพื่อหาเงินช่วยพี่สาวและพี่ชายคนโตที่พิการเหมือนกันเลี้ยงครอบครัวทั้งหมด 7 ชีวิต ซึ่งทุกวันจะโยกสามล้อจากบ้านไปจอดริมถนนหน้าปากทางนั่งขายเฟอร์นิเจอร์ซุ้มไม้ไผ่ บริเวณถนนสายสุรินทร์-ลำดวน ซึ่งนายวุธ พรามณี(ผู้พิการอุบัติเหตุตั้งแต่เด็ก) วอนหน่วยงานของรัฐและผู้ใจบุญช่วยเหลืออยากได้บ้าน
นายวุธ พรามณี (ผู้พิการ) เล่าว่า ตอนเด็กนั้นตนโดนไม้ตำที่เท้าและเป็นแผบบุกลามจนเดินไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ครอบครัวตนอาศัยอยู่ที่ดินของพ่อแม่ที่สร้างไว้ให้ ตนมีพี่น้องทั้งหมด 5 คนคือนายถวิล พรามณี พี่ชายคนโต(เป็นโปลิโอพิการตั้งแต่เกิด) อายุ 51 ปี, พี่ชายคนที่สองได้เสียชีวิต, น.ส.สมวาด พรมมณี (พี่สาวคนที่ 3) และ พี่ชายคนที่ 4 พิการทางหูไม่ได้ยินเสียง, และตนเอง นายวุธ พรามณี(ผู้พิการอุบัติเหตุ) ตนเป็นน้องคนสุดท้อง ได้ประสบอุบัติเหตุถูกไม้เสียบที่ขาจึงทำให้พิการขาลีบเดินไม่ได้ ซึ่งจะมีนายถวิล พรามณี พี่ชายคนโต(โปลิโอพิการตั้งแต่เกิด)และเป็นโรคอ้วน น้ำหนักมากกว่า100 กิโลกรัม โดยจะออกจากบ้านแต่เช้าพร้อมขนมและแมสห้อยไว้รถโยกสามล้อเพื่อไปขายที่โรงอาหารโรงพยาบาลสุรินทร์ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตรทุกวัน ส่วน น.ส.สมวาด พรมมณี(พี่สาวคนที่ 3)และพี่ชายคนที่ 4 พิการทางหูไม่ได้ยินเสียงช่วยกันทำเฟอร์นิเจอร์ซุ้มไม้ไผ่และขอให้ชาวบ้านใกล้เคียงที่มีรถยนต์กระบะช่วยขนออกมาวางที่ฟุตบาตริมถนน พร้อมกับตนจะโยกสามล้อจากบ้านออกไปปากทางระยะทาง2 กิโลเมตรมานั่งขายเฟอร์นิเจอร์ซุ้มไม้ไผ่ริมถนนทุกวัน เพื่อช่วยครอบครัวบางวันขายได้ก็ได้กินไปหลายวัน บางวันขายไม่ได้ก็อด โดยเดือนๆหนึ่งก็จะขายได้แค่ 1-2หลังเท่านั้น โดยจะมีราคาซุ้มละ 2,500 – 4,000 บาทและแต่ขนาดเล็กใหญ่ความยากง่ายที่ทำ วันไหนขายไม่ได้ก็จะอาศัยเงินผู้พิการซื้อกับข้าวมากินกัน 4 คนพี่น้อง นายวุธ พรามณี(ผู้พิการอุบัติเหตุ) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนนั้นอยู่บ้านคนละหลังกับ น.ส.สมวาด พรมมณี(พี่สาวคนที่ 3) ส่วนตนจะนอนกับนายถวิล พรามณี พี่ชายคนโต(พิการตั้งแต่เกิด)ซึ่งบ้านเป็นเพิงพื้นเป็นแคร่ไม้ไผ่ปลวกก็เริ่มขึ้นมากิน สังกะสีก็มีรูรั่วฝาผนังก็มีช่อง ช่วงเวลาฝนตกทั้งฝนรั่วลงมาที่นอนฝนสาดทำให้ตนและพี่ชายคนโตนอนกันไม่ได้ ต้องมาอาศัยบ้านพี่สาวอีกทาง พอฝนหยุดก็จะมาเช็ดถูนำที่นอนเปียกมาตาก ซึ่งมี น.ส.สมวาด พรมมณี(พี่สาวคนที่ 3)มาช่วยตน โดยตนและพี่ชาย, พี่สาว ได้ติดต่อพร้อมกับทำเรื่องขอบ้านยากจนที่ อบต.สลักได และตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งเจ้าหน้าที่ อบต.สลักได ก็มาเยี่ยมดูที่บ้านพร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภค บริโภคในเบื้องต้น และก็ได้เงียบหายไป และเมื่อไม่นานมานี้ตนและพี่สาวก็ติดต่อสอบถามไปยัง อบต.สลักได ได้รับแจ้งว่าต้องรอคิว ตนเลยสงสัยว่าผ่านมา 6-7 ปีทำไมยังไม่ถึงคิวตนหรือว่าต้องให้ตนตายก่อนใช่ไหม ตนจึงร้องขอมายังสื่อมวลชนให้เป็นกระบอกเสียงอีกทาง เพื่อให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ พร้อมกับวอนผู้ใจบุญช่วยเหลืออีกทาง















ทีมข่าวได้เดินทางเข้าพื้นที่ อบต.สลักได เพื่อขอเข้าพบนายสมุน แก้วเหลี่ยม นายก อบต.สลักได และจ่าสิบโทเจษฏา นพพิบูลย์ ปลัด อบต.สลักได ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบถึงปัญหาของนายวุธ พรามณี(ผู้พิการอุบัติเหตุ)แล้ว ซึ่งเมื่อปี 2559 ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยเหลือในเบื้องต้นบ้างแล้ว ส่วนเรื่องบ้านนั้นทาง อบต.สลักได ได้ประเมินจากหนักไปเบาหมายถึงว่าใครเดือดร้อนมากก็จะดำเนินการ ในส่วนของนายวุธ พรามณี(ผู้พิการอุบัติเหตุ) นั้น ทาง อบต.สลักได จะลงพื้นที่ไปสำรวจอีกที
สำหรับผู้ใจบุญที่อยากจะช่วยอุดหนุนนายวุธ พรามณี (ผู้พิการอุบัติเหตุ) ช่วยซื้อเฟอร์นิเจอร์ซุ้มไม้ไผ่ หรือช่วยเครื่องอุปโภคบริโภค ติดต่อได้ที่เบอร์: 087-6544758 เบอร์ของนายวุธ พรามณี ส่วนอีกสองเบอร์เป็นเบอร์ของพี่สาว062-1939160, 083-3847144 และธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 985-0-45843-7 นายวุธ พรามณี