เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ขอนแก่นอินโนเวชั่นเซ็นเตอร์ โดยบริษัท แอดลิบ แมเนจเม้นท์ จำกัด และโกลว์ฟิชขอนแก่น และสำนักงานคณะกรรมการส่งสริมการลงทุน หอการค้าจังหวัดขอนแก่น ศูนย์นวัตกรรมและการวิจัยมิตรผล (ศูนย์ขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น) สมาคมเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศไทย สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน LAB Future & BIO Expo ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 9 – 10 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น(ไคซ์) ภายใต้แนวคิด พลิกอีสานสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูง คาดว่ามีผู้เข้าชมงานกว่า 3,500 คน และการเจรจาธุรกิจกว่า 350 ล้านบาท
















นายธีรยุทธ์ ลีลาขจรกิจ ผู้อำนวยการ บริษัท แอดลิบ แมเนจเม้นท์ จำกัด และโกลว์ฟิช ขอนแก่น กล่าวว่า ภาคอีสาน เป็นภาคที่อัตราการขยายตัวของตลาดเครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีมูลค่าการตลาดรวมเฉลี่ยกว่า 30,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากการเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจระหว่างระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเขตเศรษฐกิจในประเทศลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะเขต 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินการลงทุนเข้ามาสูงสุดในภาคอีสาน และส่งผลให้เกิดการลงทุนห้องปฏิบัติการและงานวิจัยต่างๆ รวมทั้ง ศูนย์การแพทย์ ศูนย์วิเคราะห์ทดสอบ ศูนย์นำเข้าและส่งออก ศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ฯลฯ
“เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาของภาคอีสานในอนาคต งาน LAB Future & BIO Expo 2024 จึงได้รวบรวมผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือห้องปฏิบัติการทั้งในและต่างประเทศมาร่วมแสดงกว่า 80 บริษัท พร้อมงานประชุมต่างๆเช่น งานประชุมนานาชาติไบโอเทคอีสาน การประชุมด้านการแพทย์และสาธารณสุข นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดให้มีการรวบรวมนวัตกรรมของผู้ประกอบการภาคอีสาน ที่พร้อมต่อยอดและลงทุนด้านงานวิจัยและพัฒนา มาจัดแสดงในงานด้วย
นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมและการวิจัยมิตรผล (ศูนย์ขอนแก่น) กล่าวว่า ภาค อีสานเป็นทั้งพื้นที่ของผู้พัฒนาและผู้ใช้นวัตกรรมในขณะเดียวกัน โดยมีความตื่นตัวของการนำเทคโนโลยีและ นวัตกรรม มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจและอุตสาหกรรมของตนมาได้นานสักระยะหนึ่งแล้ว โดยหลายธุรกิจ ได้แสวงหาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย รวมทั้งศูนย์นวัตกรรมและการวิจัยมิตรผล เพื่อพัฒนางานวิจัยและ พัฒนาร่วมกัน และหลายบริษัทเริ่มพัฒนาห้องแล็บเป็นของตัวเองด้วย นอกจากนี้โอกาสความพร้อมของอุตสาหกรรมหลัก ๆ ในภาคอีสาน ที่พัฒนาไปสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูงได้ อาทิ อาหาร เกษตร ยา พลังงาน ดิจิทัล จึงรู้สึกยินดีมาก ที่การจัดงาน LAB Future & BIO Expo 2024 จะได้มี ISAN Innovation Pavilion ที่เป็นทั้ง ผู้แสดงและผู้ซื้อเทคโนโลยีและเครื่องมือเพื่อไปพัฒนาธุรกิจของตนต่อไป
ทางด้าน รศ.ดร.ประสงค์ แคน้ำ กรรมการ สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผย57’การพัฒนาและโอกาสการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของอีสาน ว่า มิติทางด้านสุขภาพ ถือเป็นพื้นฐานของการขับเคลื่อน ในมิติอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยเข้าสู่ยุค ประเทศไทย ได้อย่างมีแบบแผน โดยเฉพาะองค์ความรู้และ เทคโนโลยีทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการให้ข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์ ต่างๆแก่แพทย์หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการวินิจฉัย ติดตามรักษา หรือควบคุมโรคต่างๆ ตลอดจนการดูแลสุขภาพ ให้มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้ เปิดช่องทางธุรกิจ และสร้างความพร้อมผนึกกำลังส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคร่วมกัน การเข้าร่วมจัดสัมมนาในงาน LAB Future & BIO ExpO 2024 จึงเป็นต่อยอดองค์ความรู้ในวิชาชีพเทคนิคการแพทย์กับภาคีเครือข่ายภาค อีสานได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ รศ.ดร.ประกิต สุขใย อุปนายกสมาคมเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มและความพร้อมของภาคอีสานต่อการพัฒนาไบโอเทคนั้น อีสานสามารถพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านไบโอเทคด้านอาหารและเกษตรของประเทศได้ ด้วยศักยภาพการเป็นผู้ผลิตและส่งออ กสินค้าเกษตรมากเป็นอันดับหนึ่งของ ประเทศ เช่น ข้าว น้ำตาล มันสำปะหลัง ตลอดจนงานวิจัย ด้านไบโอเทค ที่มีอยู่จำนวนมากในภาคอีสาน โดย มองว่า การเชื่อมต่อกับกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง ที่เป็นแหล่งวัตถุดิบด้านการเกษตร เช่นเดียวกัน จะช่วยส่งเสริม การพัฒนาองค์ความรู้ด้านไบโอเทคที่จะมีส่วนเสริมธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอีสานให้มีมูลค่าสูงขึ้นได้