ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ แกะรอยกล้องวงจรปิดตามรวบหนุ่มวัย 26 ปี อาชีพพนักงานขายรถมือสอง ชาวจังหวัดมหาสารคาม ตะเวนก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ในสถานศึกษาและโรงพยาบาลใน 3 จังหวัด กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม เดือนเดียว 30 คัน ยึดของกลางจำนวนมาก สารภาพส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนนำเงินมาใช้หนี้และเล่นการพนันออนไลน์
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สส.ส.ภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร.ต.อ.อมร เดชศรี,ร.ต.อ.อารมณ์ เจริญสรรพ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ร่วมกันแถลงผลการติดตามจับกุมตัวนายรัตนชัย มิลา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.7 ต.ประชาพัฒนา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ผู้ต้องหาก่อเหตุตะเวนขโมยรถจักรยานยนต์ในสถานศึกษาและโรงพยาบาลในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด และจ.มหาสารคาม พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ เส้นลวดสายไฟ หมวกกันน็อค แผ่นป้ายทะเบียนรถ บัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียนกว่า 2 ล้านบาท และเอกสารรถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาจำนวนมาก หลังจากชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนแกะรอยสืบจนจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวบคุมตัวนายรัตนชัย ไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆที่ขโมยรถจักรยานยนต์ในตัวเมืองกาฬสินธุ์ โดยจุดแรกที่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีชาญยุทธ จุดที่ 2 และ 3 อยู่บริเวณภายในวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ จุดที่ 4 บริเวณลานจอดรถนักศึกษาวิทยาลับเทคนิคกาฬสินธุ์ จุดที่ 5 ลานจอดรถโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ธนบุรี ซึ่งจุดนี้กล้องวงจรปิดจับภาพขณะที่ผู้ต้องหาสวมเสื้อแขนยาวมีหมวกคลุมหัวปิดบังใบหน้ามาก่อเหตุ และจุดที่ 6 บริเวณจุดจอดรถจักรยานยนต์ข้างประตูทางออกโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ซึ่งมีนักศึกษาและผู้เสียหายเดินทางมาชี้ตัวจำนวนมาก ทั้งนี้ระหว่างที่กำลังทำแผนนายรัตนชัย ได้ร้องให้สำนึกผิด และยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายหลายครั้งอีกด้วย
ทั้งนี้นายรัตนชัย ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นพนักงานขายรถจักรยานยนต์มือสองแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม แต่ช่วงหลังมีปัญหาเรื่องหนี้สินและติดการพนันออนไลน์ ประกอบกับได้ไปรู้จักกับนายหน้าส่งรถจยย.ผิดกฎหมาย และคนรับซื้อที่ประเทศเพื่อนบ้าน จึงตัดสินใจมาก่อเหตุตะเวนขโมยรถจักรยานยนต์ตามสถานศึกษา และโรงพยาบาล ตามออเดอร์ที่นายหน้าจากประเทศเพื่อนบ้านสั่งมา ซึ่งจะเลือกขโมยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ เนื่องได้จากราคาดี และเลือกคันที่ไม่ล็อคคอ และใช้วิธีนำเส้นลวดสายไฟต่อสายตรงสตาท์เครื่องแล้วขี่หนีไป ก่อนจะนำไปส่งให้กับนายคนรับซื้อชาวสปป.ลาวคันละ 16,000 – 23,000 บาท แล้วแต่สภาพของรถ ซึ่งเท่าที่จำได้ขโมยมาแล้วประมาณ 30 คัน จากนั้นจะนำเงินที่ได้จากการขายรถมาใช้หนี้ และนำไปเล่นพนันออนไลน์ กระทั่งมาถูกจับ
ด้านพล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงเดือนธันวาคม 2563 – เดือนมกราคม 2564 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความรถจักรยานยนต์หายหลายราย ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามตัวคนร้าย โดยใช้เวลาสืบสวนกว่า 1 เดือนกระทั่งจับกุมตัวได้ ซึ่งสำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้จะนั่งรถประจำทางมาจากบ้านใน จ.มหาสารคาม ก่อนจะตะเวนก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ตามสถานศึกษา และโรงพยาบาล เท่าที่สอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าก่อเหตุใน จ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ขโมยรถจักรยานยนต์เดือนเดียว 30 คัน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะคาดว่าน่าจะมีการก่อเหตุในอีกหลายพื้นที่และขโมยรถจักรยานยนต์ไปมากกว่านี้ ซึ่งจะมีการขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
