ฝ่ายปกครอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับ ตชด.บุกรวบพระลูกวัดแอบเสพและขายยาบ้าภายในวัด ขยายผลจับโยมเครือข่ายเพิ่มอีก 2 ราย




จากกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง ว่ามีพระในวัดแห่งหนึ่งลักลอบจำหน่ายยาเสพติด นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง จึงได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอนางรอง นำโดยนายธนธรณ์พล ไขว้พันธ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง , นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 215 อำเภอนางรอง ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในวัดแห่งหนึ่งในตำบลสะเดา ภายในกุฎิชั้น 2 ของวัด พบพระไพศาล หรือพร้าว อายุ 34 ปี อยู่ในกุฎิดังกล่าว จึงทำการตรวจค้น เจอยาบ้าบรรจุอยู่ภายในกล่องยาภายในกุฏิ นับได้จำนวน 26 เม็ด เจ้าตัวรับสารภาพเก็บไว้เสพ ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาจับกุมก็เสพไปแล้ว 4 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมก่อนไปทำการสึกจากการเป็นพระ และจากการสืบสวนขยายผลต่อสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 ราย คือนายอภิรักษ์ ได้ของกลางยาบ้า 25 เม็ด และนายศักดิ์นรินทร์ ได้ของกลางยาบ้า 15 เม็ด รวมในคดีนี้ผู้ต้องหา 3 ราย ของกลางยาบ้ารวม 66 เม็ด
สำหรับประวัติพระพร้าวนั้น เดิมเป็นชาวจังหวัดราชบุรี มาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ และจะย้ายไปจำพรรษา อยู่ที่ต่างจังหวัดไปๆมาๆ กระทั่งล่าสุดมาจำวัดที่นี่ได้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งพระพร้าวมีพฤติกรรมก้าวร้าว หาเรื่องพระรูปอื่นในวัดเป็นประจำและชอบขอยืมเงินพระในวัดครั้งละ 200-300 บาท มักจะเก็บตัวเงียบอยู่ในกุฏิ จนกระทั่งมีการร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง เพื่อขอให้ตรวจสอบ และจับกุมได้พร้อมของกลาง
เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหาว่า ” มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นนำตัวไปสึกและ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามพระเล็ก พระลูกวัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ค่อยคุยกันกับพระพร้าว เนื่องจากเขาเป็นคนเก็บตัวเงียบมักจะอยู่แต่ในห้อง ไม่เคยออกมาทำวัตรเย็น แต่จะออกไปบิณฑบาตบ้างในตอนเช้า นิสัยส่วนตัวชอบมีปัญหากับพระภายในวัด ส่วนเรื่องที่แอบเสพยาในวัดนั้นไม่ทราบ เพราะไม่ค่อยได้พูดคุยกันอยู่แล้ว เพิ่งจะทราบตอนที่เจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุม