
วันที่ 25 กันยายน2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิรับเงิน 10,000 บาท ตามโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล กระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 โดยจะมีการทยอยโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ และบัญชีธนาคารที่แจ้งของผู้มีสิทธิ์ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งบางรายมานั่งรอตั้งตั้งแต่เวลา 05:00 น. แต่มีบางคนที่ต้องผิดหวังเมื่อมาเช็คเงินตอนเช้าแล้วเงินไม่เข้าอีกส่วนหนึ่งต้องรอธนาคารเปิดเพราะไม่มีบัตรเอทีเอ็ม










ซึ่งเริ่มโครงการในวันนี้ที่ 25 ก.ย. 2567 เป็นวันแรกของการโอนเงิน ในกลุ่มของผู้พิการ ทำให้บรรยากาศที่หน้าธนาคารหลายแห่งในพื้นที่ อ.เมืองสุรินทร์ มีประชาชนเดินทางมาที่ตู้กดเงินเพื่อทำการกดเงิน 10,000 บาทอย่างคึกคัก โดยที่บริเวณตู้กดเงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาสุรินทร์ ประชาชนกลุ่มแรก ที่ได้รับเงิน โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้เดินทางมาเช็คเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พร้อมกับกดเงินกันอย่างคึกคัก โดยธนาคารจะจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิตั้งแต่วันที่ 25-30 ก.ย.นี้ เข้าบัญชีพร้อมเพย์ และบัญชีธนาคารที่แจ้งไว้ ซึ่งจะมีการแบ่งทยอยโอน 4 วัน เข้าบัญชีพร้อมเพย์ และบัญชีธนาคารที่แจ้งไว้ ระหว่างวันที่ 25-30 ก.ย.67
นอกจากนี้ ประชาชนที่ได้รับเงินบางส่วนที่ไม่มีบัตร ATM ได้เดินทางมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อทำการถอนเงินไปใช้จ่าย บางรายก็มาผูกบัญชีพร้อมเพย์รอรับเงินต่อเนื่อง โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่พบในวันนี้ จะเป็นในเรื่องที่ประชาชนนั้นสับสนว่า ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้กับธนาคารไหน
สัมภาษณ์ นายสายชล ดีเดิม อายุ 63 ปี มีบ้านอาศัยเลขที่ 177/14 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจมากที่ได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งบ้านครอบครัวตนได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาททั้งหมด 7 คน ซึ่งตนเองจะนำเงินเก็บไว้ในบัญชีธนาคารและจะเบิกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเมื่อจำเป็น และต้องอยากจะขอบคุณรัฐบาล หรือนายกอุ๊งอิ๊ง ที่ทำให้ประชาชนได้รับเงิน 10,000 บาท
ชาวบ้านผู้มีรายได้น้อยนั่งรอทำเอกสารหรือผูกบัญชีพร้อมเพย์ เปิดเผยว่า ตนนั้นยังไม่ได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แต่ที่มาธนาคารเพราะว่ามารับแทนสามีที่พิการนอนป่วยติดเตียวอยู่ที่บ้าน ซึ่งหากตนและสามีได้เงินมาตนก็จะนำไปให้จ่ายในชีวิตประจำวัน จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ รวมไปถึงซื้อเครื่องอุปโภค บริโภค แต่สิ่งที่สำคัญเลยคือเรื่องของใช้จ่ายดูแลสามี ก็ขอขอบคุณทางรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชน ทำให้มีเงินใช้จ่ายหมุนเวียน อย่างเช่นสามีตนที่ได้จากเบี้ยคนพิการ และตัวน้าตนเองก็ไม่มีรายได้ ไว้มาเป็นเงินจุนเจือสำหรับเลี้ยงครอบครัว
นอกจากนี้ ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ ส่วนใหญ่มองว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นการช่วยเหลือประชาชนได้ในเบื้องต้น ก็อยากจะฝากถึงรัฐบาล ควรมีมาตรการแนวทางระยะยาวในการช่วยเหลือ กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมไปถึงผู้ที่มีรายได้น้อยอีกด้วย