
วันที่ 7 ตุลาคม 2567 เวลา 13.30 น. มหาวิทยาลัยนครพนม จัดพิธีบรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนไหลเรือไฟโชว์ของมหาวิทยาลัยนครพนม โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา ผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรม และสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ ณ ซุ้มเรือไฟมหาวิทยาลัยนครพนม (ด้านหน้าโรงเรียนสุนทรวิจิตร)











ในปีนี้ มหาวิทยาลัยนครพนม ร่วมสืบสานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม โดยร่วมส่งเรือไฟไหลโชว์ เป็นเวลา 3 วัน ได้แก่ วันที่ 8, 11 และ 15 ตุลาคม 2567 ปล่อยเรือเวลา 18.30 น. เป็นต้นไป บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงเขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยเรือไฟมหาวิทยาลัยนครพนม ได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งในการสร้างเรือไฟ จากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม และได้รับการสนับสนุนน้ำดื่มจากผลิตภัณฑ์น้ำดื่มบีน่า (Bena) ตลอดงานประเพณีไหลเรือไฟ เพื่อเป็นการสืบสานโดยการถ่ายทอดองค์ความรู้จากศิลปินเรือไฟสู่คนรุ่นใหม่ มหาวิทยาลัยจึงได้จัดประกวดแบบเรือไฟ โดยกำหนดให้นักศึกษาและบุคลากรร่วมประกวด ซึ่งแบบเรือไฟที่ชนะเลิศเป็นของนายระพีภัทร รัตนะ นักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ แต่เพื่อให้แบบเรือไฟสามารถสร้างได้จริงตามสัดส่วนที่เหมาะสม จึงเกิดการทำงานร่วมกันระหว่างนักศึกษากับ อาจารย์เสนอ ลาภะ ศิลปินเรือไฟ ร่วมกันปรับแบบเรือไฟ ให้ได้ตามสัดส่วน และมีความสวยงาม โดยกำหนดขนาดเรือไฟที่ความยาว 40 เมตร สูง 14 เมตร มีองค์ประกอบดังนี้ ตัวเรือเป็นรูปเรือสุพรรณหงษ์ มีตราสัญลักษณ์ วปร. อักษรพระปรมาภิไธย “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” มีหมายเลข 10 สื่อถึง รัชการที่ 10 หมายเลข 72 สื่อถึง พระชนมพรรษา 72 พรรษา มีรูปพระธาตุพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) และมีพญานาค 1 องค์ ที่สะท้อนถึงความเชื่อและความศรัทธาของชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง และยังมีข้อความมหาวิทยาลัยนครพนม และตราสัญลักษณ์ของสภาอุตสาหกรรมอยู่บริเวณท้ายเรือ โดยแบบเรือที่ออกแบบมานั้นจะประดับตะเกียงไฟจำนวนกว่า 4,000 ดวง
รวมทั้งได้มีการรวบรวมกระป๋องเครื่องดื่มกว่า 17,000 ใบ เพื่อนำมาเป็นตะเกียงเรือไฟ โดยนักศึกษาและบุคลากร ได้ร่วมกันเติมน้ำมันตะเกียง เสมือนร่วมกันทำบุญตามความเชื่อ