
เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 15 ตุลาคม 2567 ร.ต.ท กิตติภูมิ อรรควิทยานุกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเผาเถียงนาและลักควาย ที่เถียงนาท้ายหมู่บ้านหนองหว้า ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรฯ หลังจากได้รับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุ





ที่เกิดเหตุเป็นเถียงนาไม้ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร มีฝาไม้เล็กน้อย มีชาวบ้านประมาณ 10 คน เข้ามาช่วยดับไฟ และจับกลุ่มพุดคุยเรื่องที่โจรมาอาละวาดลักควาย และได้พบกับนายประวินร์ นามอาษา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 319 หมู่ 4 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าของเถียงนา และได้นำ จนท.ตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุ พบที่นอนฟูกทำด้วยนุ่น โดนราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผา ที่ห้องครัวมีร่องรอยตักข้าวสวยใส่จานคลุกน้ำปลากิน และพบว่าควายตัวเมีย อายุ 3 ปี ได้หายไป โดยมีเชือกผูกควายโดนตัดออกและวางอยู่ข้างเสา ส่วนมีดพร้าที่ใช้ตัดเชือกวางที่พื้นใกล้กัน ตำรวจจึงเก็บจานและช้อนไปตรวจหาลายนิ้วมือ
จากการสอบสวนนายประวินร์ ให้การว่า ตนเลี้ยงควาย 3 ตัว เป็นแม่พันธ์ 1 ตัว เป็นลูก 2 ตัว โดยทำคอกอยู่ข้างเถียงนา แต่ช่วงนี้ฝนตก ทำให้คอกเปียก จึงนำควายมาผูกไว้หน้าเถียงนา โดยตนจะนอนเฝ้าควายกับสุนัข 1 ตัว ทุกคืน ก่อนเกิดเหตุ ช่วงหัวค่ำ ตนไปขุดไส้เดือนเพื่อไปใส่เบ็ดจับกบและปลา พอถึงเวลา 23.00 น. ตนจึงเดินถือเบ็ดออกไปที่สระน้ำกลางทุ่งนา ห่างจากเถียงนาประมาณ 500 เมตร ขณะตนกำลังเดินปักเบ็ดตามคันนา เหลืออีก 3 อัน ก็ได้ยินเสียง“ไอ้ก่าน” สุนัขที่เลี้ยงไว้ได้เห่าที่เถียงนา ตนจึงมองไปที่เถียงนา ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติ ไม่มีแสงไฟจากรถ ไม่มีแสงไฟฉาย ตนจึงเดินปักเบ็ดจนเสร็จ แต่ “ไอ้ก่าน” ก็ยังเห่าเสียงดังขึ้นคล้ายจะกัดอะไร และเห่าไม่หยุด จึงตัดสินใจเดินกลับไปที่เถียงนา
นายประวินร์ ให้การต่อไปว่า เมื่อมาถึงก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้บนเถียงนา จึงขึ้นไปดูก็พบว่าฟูกที่นอน โดนลาดน้ำมันเบนซินแล้วจุดไฟเผามีควันลอยขึ้นมา ส่วนควายที่ผูกไว้หายไป 1 ตัว เป็นควายแม่พันธ์ อายุประมาณ 3 ปี เป็นควายงาม ราคาประมาณ 6 หมื่นบาท กำลังตั้งท้อง 4-5 เดือน คนร้ายนำมีดพร้าของตนมาตัดเชือกควาย แล้ววางมีดไว้ที่พื้น ซึ่งตนสันนิษฐานว่าโจรจ้องจะมาขโมยควายของตน โดยมาดูลาดเลาไว้แล้ว พอสบโอกาสตนออกไปปักเบ็ด โจรจึงเข้ามาลักเอาควาย และราดน้ำมันเผาที่นอน เพื่อให้ไหม้เถียงนาไปด้วย แต่โชคดีตนมาเห็นก่อน
“ปกติจะเข้านอนตั้งแต่ 2-3 ทุ่ม แต่คืนนี้เป็นอะไรไม่รู้อยากจะไปปักเบ็ดในทุ่งนา ส่วนลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุ วันนี้ช่วงหัวค่ำขณะตนเดินขึ้นเถียงนา ตนไปถูกเสี้ยนตำมือ และไปจับหัวน็อตจักรยานหัวน็อตก็บาดมือ ก็รู้สึกแปลกใจว่าจะมีเรื่องไม่ดี อีกอย่างปกติตนจะไม่ห้อยพระเครื่องเลย แต่วันนี้ได้นำพระเครื่องทั้งพวง 5 องค์ มาห้อยไว้ที่คอก่อนลงไปปักเบ็ด จึงทำให้ตนแคล้วคลาดไม่พบกับคนร้ายซึ่ง ๆ หน้า อาจจะเป็นตนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต”
ตำรวจสันนิษฐานว่า โจรลักควายต้องมีมากกว่า 1 คน มาดูลาดเลาหลายวันแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นควายแม่พันธ์ พอสบโอกาสก็เข้ามาลักทันที ส่วนยานพาหนะคาดว่าจะจอดไว้ถนน เพราะรถยนต์เข้าไม่ได้ ซึ่งจะได้ประสานชุดสืบสวน ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป