
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ต.ค. 2567 ที่ วัดทรงธรรม บ้านหนองกระรอก ต.แวงใหญ่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น นายกรุง นามสง่า นายอำเภออุบลรัตน์ เป็นประธานองค์กฐินสามัคคี ร่วมกับนายกิจจา หมอกเจริญ นายอำเภอแวงใหญ่และชาวบ้านในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี โดยมีพระครูสุตรัตนาลงกรณ์ เจ้าอาวาสวัดทรงธรรม รองเจ้าคณะอำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายประคอง อายุยืน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านหนองกระรอก และพุทธศาสนิกชน ร่วมในพิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนบำรุงพระพุทธศาสนา ให้มั่นคงถาวรสืบไป โดยก่อนถวายกฐิน มีพิธีสมโภชองค์กฐิน ขบวนแห่องค์กฐินรอบหมู่บ้าน และรอบอุโบสถ 3 รอบ และพิธีสมโภชกฐิน












พระครูสุตรัตนาลงกรณ์ เจ้าอาวาสวัดทรงธรรม รองเจ้าคณะอำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น แสดงสัมโมทนียกว่า “หลังจากที่ออกพรรษาแล้ว จะเข้าสู่ช่วงการทอดกฐิน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 จึงถือว่าเป็นบุญเฉพาะกาล การทอดกฐิน ถือเป็นสังฆทานชนิดหนึ่ง การทอดกฐิน คือ การนำผ้ากฐินไปวางไว้ต่อหน้าพระสงฆ์อย่างต่ำห้ารูป แล้วให้พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งที่ได้รับมอบหมาย จากคณะสงฆ์ทั้งนั้นเป็นเอกฉันท์ให้เป็นผู้รับกฐินนั้น ถือว่าเป็นการสร้างบุญใหญ่ที่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง”
“อานิสงส์บุญจากการทอดกฐิน ถือเป็นบุญใหญ่ที่มีอานิสงส์มากเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นบุญที่ทำได้ยากและมีข้อจำกัดหลายประการ อีกทั้งการทำบุญทอดกฐินจะมีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ถือเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ทุกยุคทุกสมัย มีความศรัทธาเลื่อมใสว่า เป็น “ยอดของมหากุศล” จะเป็นเหตุนำทางให้ผู้ที่ได้มีส่วนร่วมในการทอดกฐินนั้น ได้มหานิสงค์อันยิ่งใหญ่สุดประมาณ”