
กรณีเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 15 ธันวาคม 2567 พนักงานรักษารถของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดงดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนพร้อมกับลูกสาววัย 4 ขวบนั่งมาด้วยอยู่หน้ารถจักรยานยนต์ เพื่อมาซื้อท่อ pvc พอซื้อเสร็จกำลังขับขี่รถกลับบ้าน ระหว่างทางก่อนถึงบ้านประมาณ 500 เมตร ได้ถูกสายเคเบิ้ล (สายสื่อสาร)ของบริษัท TOT ห้อยลงมารัดคอทำให้รถจักรยานยนต์ล้มหัวฟาดพื้นสลบ ชาวบ้านรีบนำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ ส่วนลูกสาววัย 4 ขวบที่นั่งมาด้วยใบหน้าถลอกเจ็บเล็กน้อย ที่บริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้านลำชี ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ และได้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 วัน และวันนี้หมอให้กลับบ้านพักรักษา ไร้การดูแลของบริษัท TOT เจ้าของสายเคเบิ้ลที่ห้อยทำให้เกิดอุบัติเหตุโชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต














ล่าสุด วันที่ 17 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอให้สื่อเป็นกระบอกเสียงจาก น.ส.ปภาวรินทร์ พรรัมย์(ภรรยาผู้บาดเจ็บ) อายุ 40 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนบ้านเลขที่ 24 หมู่ 5 ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สวาท รุ่งสันเทียะ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 11.00 น.นายศุภกร ศักดิ์ศรีตระกูล(สามี) ผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีตำแหน่งพนักงานรักษารถ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ขับขี่รถจักยานยนต์ เวฟ 125 สีแดงดำ โดยมี เด็กหญิงนลินญา ศักดิ์ศรีตระกูล อายุ 4 ขวบ(ลูกสาว)นั่งหน้ารถมาด้วยมาด้วย ได้ประสบอุบัติเหตุถูกสายเคเบิ้ลของบริษัท TOT ที่ห้อยลงมาเกี่ยวคอทำให้ตกจากรถจักยานยนต์ พร้อมลูกสาวได้รับบาดเจ็บ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ซึ่งสายเคเบิ้ลดังกล่าวที่ห้อยลงมาทราบว่าเป็นของหน่วยงานบริษัท TOT จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีพร้อมกับร้องเรียนสื่อมวลชนให้เป็นกระบอกเสียงอีกทางเพราะเกรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและอาจเกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นได้อีก
สัมภาษณ์ นายศุภกร ศักดิ์ศรีตระกูล(ผู้บาดเจ็บ) เล่าว่า ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาซื้อท่อ pvc เพื่อมาต่อท่อประปาที่บ้านพักรถไฟลำชี ซึ่งมีลูกสาวร้องตามมาด้วย ตนจึงให้นั่งหน้ารถ พอตนซื้อเสร็จก็ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งห่างจากบ้านเพียง 500 เมตรก็จะถึงบ้าน แต่ระหว่างนั้นได้มีรถยนต์กระบะส่งของได้จอดอยู่ริมทาง ตนจึงแซงออกมาแล้วเข้าซ้ายคืน พอเข้าซ้ายแล้วตนเห็นว่ามีสายเคเบิ้ลลักษณะเป็นเส้นลวดสลิงอยู่หน้ารถส่งของ แต่ก็เบรคไม่ทันเพราะว่าเส้นลวดสลิงได้เข้ารัดคอตนทำให้ตนและลูกสาวตกจากรถจักรยานยนต์พร้อมกับไถลไปกับพื้นถนนจำอะไรไม่ได้และตนก็หลับไป ฟื้นอีกทีก็นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์แล้ว ตนนั้นได้รับบาดเจ็บที่บริเวณต้นคอมีรอยแผลถลอกคล้ายไหม้ และบริเวณต้นคอและที่เอว ตามตัวซึกด้านขวามีรอยถลอกคล้ายไฟไหม้ตั้งแต่แขนลงมาถึงขา และลูกสาว 4 ขวบของตนนั้นได้รับบาดเจ็บเป็ยแผลถลอกที่บริเวณใบหน้าช่วงตาด้านขวาและที่นิ้วมือ ตนได้สอบถาม น.ส.ปภาวรินทร์ พรรัมย์(ภรรยา) ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรู้ว่าตนเกิดอุบัติเหตุสายเคเบิ้ลที่ห้อยรัดคอตน พร้อมกันนี้ตนขอฝากไปยังบริษัทสายเคเบิ้ล ไม่ว่าบริษัทไหนก็ตามช่วยพยายามติดตามเช็คสายเคเบิ้ลของท่านหน่อยเพราะว่ารื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งแล้วดีนะที่ตนและลูกสาวไม่ถึงขั้นเสียชีวิต พร้อมกันนี้ตนจึงร้องมายังสื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงและตนขอวิงวอนให้ผู้อำนวยการของบริษัท TOT สุรินทร์ได้เข้ามาดูแลตนหรือเยียวยาเพราะตนไม่ได้ทำงานเลย
นายประสิทธิ์ พันธุ์บุตร 61 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์และเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ถนนทางเข้าหมู่บ้านลำชี ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเกิดเหตุ พร้อมกับเล่าว่าตนได้ยินเสียงคล้ายรถจักรยานยนต์ล้มจึงรีบออกมาดู พบว่านายศุภกร ศักดิ์ศรีตระกูล ผู้ได้รับบาดเจ็บและลูกสาววัย 4 ขวบนั้น ได้ลงไปนอนอยู่พื้นถนน ตนจึงรีบเข้าไปช่วย พร้อมกับสังเกตเห็นสายเคเบิ้ลห้อยอยูกลางถนน พบบาดแผลของนายศุภกร ศักดิ์ศรีตระกูล ผู้ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกที่ขาขวา ที่แขนขวาและสบั๊คหลัง และแผลรอยสายเคเบิ้ลที่เปลือยเห็นเป็นลวดสลิงรัดคออยู่เป็นรอยแผลลึกเห็นชัดเจน และสลบปลุกไม่ตื่น พร้อมกันนี้ยังพบเด็กอายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวของนายศุภกร ศักดิ์ศรีตระกูล ผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งร้องไห้อยู่มีบาดแผลถลอกที่ใบหน้า ตนจึงรีบบอกให้ชาวบ้านระแวกใกล้เคียงช่วยนำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ และรีบไปแจ้งบอกกับ น.ส.ปภาวรินทร์ พรรัมย์(ภรรยาคนเจ็บ) ให้ตามไปที่โรงพยาบาลสุรินทร์ดังกล่าว