
คืบหน้า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 ลงพื้นที่ติดตามคดีด้วยตนเอง เชื่อว่าน่าจะเขื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งโอร์เสม็ด คาดมีทั้งคนไทยและคนเวียดนาม และจีน อยู่ในขบวนการ ต่างชาติชาวจีนถูกลักตัวบังคับทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์กระโดดลงจากรถหนีตายโร่ขอความช่วยเหลือตำรวจ ขณะที่ตำรวจขยายผลบุกค้นบ้านเป้าหมายพบพาสปอร์ตชาวจีน จำนวนหลายเล่มและอุปกรณ์ในการจัดทำพาสปอร์ตปลอม















ศูนย์วิทยุศรีไผท สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้ง ว่ามีชาวจีนโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ อยู่ที่บริเวณใต้สะพานลอย ใกล้แยกบ้านดงมัน ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.อ.อุทัย ดวงดี ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมพลขับ รุดเข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบชายชาวจีนหนึ่งรายนั่งอยู่ใต้สะพานลอยในอาการตกใจกลัวทราบชื่อต่อมาชื่อนายซู ลี(ชาวจีน) อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามทราบว่าได้ถูกหลอกลักพาตัวมาเพื่อบังคับให้ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พอขับรถยนต์มาก่อนถึงบริเวณสะพานลอยตนจึงได้กระโดดวิ่งหนีหลบอยู่สักพัก และได้เดินมาถึงบริเวณสะพาน จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยเหลือ
ทางด้าน ร.ต.อ.อุทัย ดวงดี ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมพลขับ ได้นำตัวนายซู ลี(ชาวจีน) มายัง สภ.เมืองสุรินทร์ พบ พ.ต.ท. ขจร แรงจบ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมกับรายงานไปยัง พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ และ พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมกันนี้ได้สอบสวนทราบข้อมูลว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้ามาพักอาศัยอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ จึงได้เรียกประชุม พ.ต.ท.ประมวล บัวหลวง รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์, พ.ต.ท.วัชรพงศ์ พวงบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ และติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้าตรวจค้นขยายผลต่อไป
โดย พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ ลงพื้นที่ติดตามการสืบสวน สอบสวน ขบวนการลักลอบขนต่างด้าวฯ ขยายผลดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์, พ.ต.ท.ประมวล บัวหลวง รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์, พ.ต.ท.วัชรพงศ์ พวงบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุรินทร์, พ.ต.ท.สทรัตน์ แก่นดี สว.สส.สภ.เมืองสุรินทร์, ชุดสืบสวน ภ.จว.สุรินทร์, ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนใช้การสะกดรอยติดตามบุคคลที่มาเยี่ยมชาวเวียดนาม 1 ในขบวนการที่ถูกจับกุมได้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเชื่อว่า เป็น 1 ในขบวนการ พบว่าชาวเวียดนามที่มาเยี่ยมผู้ถูกจับกุมเดินทางกลับไปยังอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าสังเกตุพบมีการเคลื่อนไหวของชาวเวียดนาม และอาจเป็นการช้าหากขอหมายค้น และพยานหลักฐานอาจถูกทำลาย หรือเคลื่อนย้ายได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ทั้ง 2 ห้อง พบชาวเวียดนามอยู่ที่อาคารพาณิชย์ จำนวน 2 คน และอาคารพาณิชย์เลขที่อีกห้องจำนวน 2 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบพาสปอร์ตชาวจีนจำนวนหลายเล่มและอุปกรณ์ในการจัดทำผ่าและสวมเล่มพาสปอร์ต อันเป็นขบวนการในการผ่าเล่มและจัดทำพาสปอร์ตปลอมขึ้นมาบางส่วนใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมจัดทำบัญชีของกลาง พร้อมกับได้นำตัวไป สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
โดยเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.สทรัตน์ แก่นดี สว.สส.ฯ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ , เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ตม.จว.สุรินทร์ , เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กก.สส.บก.ตม.4 , เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.2 , เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ตชด.217 , เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ได้ช่วยเหลือ MR.SU LI (นายซู ลี) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน และ MRS.NGUYEN THI NHAT LE อายุ 24 ปี สัญชาติเวียดนาม พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหา ”โดยรู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” จากนั้นได้เข้าช่วยเหลือชาวจีนที่ บ้านเลขที่ 98 บ.สนายตรวจ ม.5 ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ คือ MR.CHE HAO อายุ 23 ปี สัญชาติจีน, นายหลิว เฉียว อายุ 34 ปี สัญชาติจีน, นายลำ พู อายุ 36 ปี สัญชาติจีน, และนายเจียวเหวินจิ้น อายุ 22 ปี สัญชาติจีน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งการควบคุมตัว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ มาตรา 22,23 นำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองสุรินทร์
ล่าสุดขณะนี้ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 เดินทางมาติดตามคดีด้วยตนเอง และพล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์,พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.4 ,พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.สุรินทร์,พ.ต.อ.ธนวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผกก.ตม.จว.สุรินทร์,พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.สส.บก.ตม.4,พ.ต.ท.วัชรพงศ์ พวงบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุรินทร์,พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก รอง ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ และ พ.ต.ต.ณพล พาหอม สว.ตม.จว.สุรินทร์ โดยร่วมประชุมด่วนก่อนเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวในพื้นที่ ตำบล ท่าสว่าง และ ตำบลคอโค เชื่อว่าน่าจะเขื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งโอร์เสม็ด ประเทศกัมพูชา ก่อนลอบเข้ามาฝั่งไทย ซึ่งจากการตรวจค้นพบอุปกรณ์การปลอมแปลงพาสปอร์ตจำนวนมาก เตรียมจะไปยังฝั่งพม่า คาดมีทั้งคนไทยและคนเวียดนาม และจีน อยู่ในขบวนการดังกล่าว ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และค้ามนุษย์
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.30 น. พ.ต.ท.สทรัตน์ แก่นดี สว.สส.ฯ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ , เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ชุดอาชญากรรม กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ , เจ้าพนักงานตำรวจสังกัด ชุดปราบปรามอาชกรรมทางเทคโนโลยี ภ.จว.สุรินทร์ , เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ตม.จว.สุรินทร์ , เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กก.สส.บก.ตม.4 , เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กก.3 บก.สอท.3 ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 224-255 ม.21 ต.ท่าสว่าง อ.เมืองจ.สุรินทร์ ต่อเนื่อง บ้านเลขที่ 224 ม.21 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมกับได้ร่วมกันจับกุม Mr. TU VAN DIEP อายุ 34 ปี สัญชาติ เวียดนาม และ Mr. TRUONG ANH HUNG อายุ 32 ปี สัญชาติ เวียดนาม พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้
- คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง
- เครื่องปริ้น จำนวน 2 เครื่อง
- จักรเย็บอุสาหกรรม จำนวน 1 เครื่อง
- เครื่องพิมพ์บัตร จำนวน 1 เครื่อง
- กระดาษ จำนวน 1 ห่อ
- หมึกพิมพ์ลาย จำนวน 1 อัน
- เครื่องตัดกระดาษ จำนวน 1 เครื่อง
- กาว 1 จำนวน กระปุก
- หนังทำปก สี:แดงเลือดหมู จำนวน 1 แผ่น
- ถุงขยะ สี:ดำ จำนวน 1 ถุง
- กรรไกร ด้ามสีแดง จำนวน 1 เล่ม
- โต๊ะหน้าขาววางอุปกรณ์ จำนวน 1 ตัว
- เก้าอี้ สี:ดำ จำนวน 1 ตัว
- Passport 27 เล่ม
- Passport ที่รอการดัดแปลง/แก้ไข ไม่สามารถระบุได้ จำนวน 10 เล่ม
- Passport K0220503 (หนังสือเดินทางของ Mr. TU VAN DIEP อายุ 34 ปี สัญชาติ เวียดนาม) จำนวน 1 เล่ม
- Passport C6591528 (หนังสือเดินทางของ Mr. TRUONG ANH HUNG อายุ 32 ปี สัญชาติ เวียดนาม) จำนวน 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหา กับผู้ต้องหาที่ 1-2 “ร่วมกันทำหนังสือเดินทางปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในหนังสือเดินทางที่แท้จริง หรือประทับตราปลอมหรือลงลายมือชื่อปลอมในหนังสือเดินทาง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นหนังสือเดินทางที่แท้จริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งการควบคุมตัว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ มาตรา 22,23 นำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองสุรินทร์
สัมภาษณ์ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากรณีที่ชาวจีนได้โทรไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับได้สอบสวนจึงทราบว่ามีแหล่งที่พักพิงต่างด้าวคือชาวเวียดนามและชาวจีน จึงได้ขยายผลต่อและวันนี้จุดนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่เป็นแหล่งชาวเวียดนามได้เชื่อมโยงกันแก็งคอลเซ็นเตอร์มีการทำพาสปอร์ตขึ้นมา โดยพาสปอร์ตที่เรายึดได้บางส่วนได้มีการเชื่อมโยงโดยตรงกับบุคคลที่เราไปตรวจพบในวันแรกใน 3 ท่าน เชื่อว่าขบวนการนี้เป็นขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะต้องเอามาพักอยู่ตรงนี้เตรียมข้ามไปประเทศที่ 3 เพราะว่าจัดทำพาสปอร์ตเตรียมไว้ ตอนนี้ให้ทางพื้นที่ประสานไปทางตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สำหรับการเชื่อมโยงไปฝั่งพม่านั้น เรายังไปไม่ถึง แต่ก็จะตรวจสอบว่าบุคคลที่เช่าอยู่เป็นคนไทย ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีการเชื่องโยงไปทางบัญชีม้า หรือค้ามนุษย์ และคอลเซ็นเตอร์หรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกครั้ง